แม่เหยื่อสาวบนเกาะเต่าเผย เคยห้ามลูกสาวไม่ให้มาไทยแล้ว เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัย
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์เทเลกราฟ รายงานว่า นางซูซาน วิทเธอร์ริดจ์ มารดาของ น.ส. ฮันนาห์ วิทเธอร์ริดจ์ เหยื่อฆาตกรรมบนเกาะเต่าที่ถูกสังหารเมื่อปี 2557 พร้อมกับ นายเดวิด มิลเลอร์ เผยว่า ได้เคยพยายามโน้มน้าวขอร้องลูกสาวแล้วว่าอย่าได้เดินทางไปประเทศไทย เนื่องจากเกรงเรื่องความปลอดภัย
โดยในถ้อยแถลงของ นางซูซาน ต่อเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพ ที่เมืองนอร์วิช ประเทศอังกฤษ ระบุว่า แรกเริ่ม น.ส.ฮันนาห์ วางแผนว่าจะไปท่องเที่ยวที่ยุโรป หรือออสเตรเลีย ก่อนจะเปลี่ยนใจเดินทางไปประเทศไทยแทน
"ทางครอบครัวเองก็ไม่เห็นด้วยการกับทริปของฮันนาห์ และพยายามที่จะโน้มน้าวให้เธอยกเลิก ไม่มีใครในครอบครัวที่มีความสุขกับการที่เธอจะไปเมืองไทยเลย แต่เธอก็ได้ตัดสินใจไปแล้ว" นางซูซานกล่าว และว่า ฮันนาห์ก็ได้พยายามที่จะทำให้ตนคลายความกังวลลง ด้วยการพูดคุยกันผ่านสไกป์หรือส่งข้อความมาหาทุกวัน
นางซูซาน กล่าวด้วยว่า ฮันนาห์อยู่ระหว่างเข้าคอร์สทำอาหารที่กรุงเทพฯ และได้เดินทางไปเที่ยวป่าทั่วประเทศไทย ซึ่งทำให้ตนสติแตกกับสิ่งที่ลูกสาวทำ แต่ก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเมื่อได้เห็นรอยยิ้มของลูกสาวที่เกาะเต่า เพราะได้รู้ว่าลูกสาวจะได้ว่ายน้ำและอาบแดด กระทั่งวันที่ 16 กันยายน ก็เป็นวันที่เปลี่ยนชีวิตของตนไปตลอด เมื่อสามีเดินเข้าไปในห้องครัวพร้อมกับร้องไห้อย่างคร่ำครวญ เมื่อทราบข่าวเรื่องการเสียชีวิตของลูกสาว กลายเป็นฝันร้ายที่สุดในชีวิต
นางซูซาน กล่าวว่า ครอบครัวได้รีบบินไปประเทศไทยเพื่อรับฟังเรื่องราวจากเจ้าหน้าที่สถานทูตอังกฤษ ว่า ฮันนาห์ และเดวิด เสียชีวิตอย่างไร
"ความจริงเป็นเรื่องที่แสนโหดร้ายและเกินกว่าจะรับได้" นางซูซานกล่าว พร้อมแสดงความชื่นชมในตัวลูกสาวว่า "เธอสวยงามและเป็นผู้หญิงที่รักความสนุก ที่สามารถทำให้ห้องเต็มไปด้วยความรักและความสุขได้ เพียงมีเธออยู่ในนั้น"
"ครอบครัวเราแตกสลาย และไม่สามารถกลับมาเหมือนเดิมได้อีก" นางซูซานกล่าว
ทั้งนี้ นายแพทย์แนท แครี นักพยาธิวิทยา ผู้ทำการชันสูตรพลิกศพน.ส.ฮันนาห์ เปิดเผยว่า น.ส.ฮันนาห์ เสียชีวิตเนื่องจากได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ศีรษะ ซึ่งบาดแผลเกิดขึ้นจากการถูกจอบทุบเข้าไปหลายครั้ง และดูเหมือนจะเสียชีวิตแทบจะในทันที นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยว่าน.ส.ฮันนาห์จะถูกลากตัว และถูกล่วงละเมิดทางเพศ โดยไม่มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าได้รับบาดเจ็บจากการป้องกันตัว