เก๋งจมอ่างเก็บน้ำ พบโครงกระดูกอดีตตชด.หายตัว 3 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 11.20 น. สภ.เมืองอุดรธานี รับแจ้งเหตุพบรถเก๋งจมอยู่ในอ่างเก็บน้ำหนองทา ม.10 บ้านคำกลิ้ง ทางไปวัดเกสรศีลคุณ หรือป่าบ้านตาด ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี
ซึ่งมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน พร้อมด้วยรถยกได้ลากรถขึ้นมาและเปิดประตูรถออกมา พบโครงกระดูกมนุษย์กองอยู่ตรงเบาะที่นั่งคนขับ คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 1 ปีมาแล้ว
ที่เกิดเหตุเป็นถนนทางโค้งเลียบอ่างเก็บน้ำหนองทา ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ช่วงหน้าแล้งจะมีชาวบ้านมาตั้งร้านค้าขายอาหารเครื่องดื่มให้ชาวบ้านมาเล่นน้ำคลายร้อน เจ้าหน้าที่พบรถเก๋งยี่ห้อเชฟโรเลต สีเทาดำ ทะเบียน กฉ-5895 อุดรธานี ขึ้นมาบนฝั่ง โดยด้านในตัวรถพบเศษชิ้นส่วนโครงกระดูกกองเรียงรายบนเบาะที่นั่งฝั่งคนขับ เป็นกระดูกมนุษย์ มีกะโหลกศีรษะและชิ้นส่วนครบทั้งตัว และเศษเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดแขนสั้นผ้าร่มสีออกน้ำตาลและกางเกงขาสั้นกองอยู่บนเบาะ และเข็มขัดนิรภัยยังคาดล็อกอยู่
ส่วนเบาะที่นั่งด้านหลังพบกระเป๋าเสื้อผ้าสีน้ำตาลดำ ข้างในมีเสื้อผ้าและเอกสารประจำตัว เงินสดเป็นธนบัตรและเปื่อยยุ่ยหมดแล้ว เอกสารบัตรประจำตัวระบุชื่อ ด.ต.พีรพงษ์ อายุ 67 ปี อดีตตชด.24 ค่ายเสนีย์รณยุทธ์ สภาพโครงกระดูกที่พบน่าจะเสียชีวิตมามากกว่า 1 ปี
จากการสอบสวนเบื้องต้นได้เรียกตัว นางพิมพ์นารา อายุ 48 ปี ภรรยาของผู้ตาย และ น.ส.พลอยวาลินทร์ อายุ 25 ปี บุตรสาวของผู้ตาย มาสอบสวน ทราบว่า ผู้ตายเป็นอดีตข้าราชการตำรวจสังกัด ตชด.24 และลาออกจากราชการมาประกอบอาชีพส่วนตัวเมื่อครั้งได้ยศดาบตำรวจ โดยทำธุรกิจสินค้าขายตรงประเภทอาหารเสริม
แต่งงานอยู่กินกับนางพิมพ์นารา มีบุตรสาว 1 คนคือ น.ส.พลอยวาลินทร์ โดยที่นางพิมพ์นาราเปิดร้านขายของชำ อยู่ข้างตลาดอุดรเมืองทองและยังปล่อยเงินกู้อีกด้วย แต่นางพิมพ์นาราอ้างว่าได้แยกทางกับผู้ตาย ก่อนที่จะไม่ได้ติดต่อกับผู้ตายนาน 2-3 ปีมาแล้ว
สอบสวนนางพิมพ์นาราให้การว่า ก่อนที่จะแต่งงานอยู่กินกัน ผู้ตายเคยมีครอบครัวมาก่อน มีลูกกับภรรยาเก่าถึง 4 คน และมาแต่งงานอยู่กับตนเองมีลูกสาวคนเดียว กระทั่งเมื่อประมาณ 3-4 ปี ได้แยกทางกับผู้ตาย และไม่ได้ติดต่อกับผู้ตายนานกว่า 2 ปีแล้วคิดว่าจะไปมีครอบครัวใหม่ หรือไม่ก็ไปบวชเป็นพระ ไม่คิดว่าจะเสียชีวิตเพราะรถยนต์ตกลงไปในน้ำ ซึ่งยืนยันว่าไม่ทราบสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้
ทั้งนี้ ชุดสืบสวนได้เรียกสอบพยานใกล้ชิดกับผู้ตายทั้งหมดมาสอบสวนอีกครั้ง เนื่องจากยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุหรือเป็นการฆาตกรรมอำพราง
ขอขอบคุณภาพจาก มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน