เหยื่อกระเช้าร่วงยังโคม่า ตรวจสอบพบเครื่องเก่าจนน็อตหลุด

เหยื่อกระเช้าร่วงยังโคม่า ตรวจสอบพบเครื่องเก่าจนน็อตหลุด

เหยื่อกระเช้าร่วงยังโคม่า ตรวจสอบพบเครื่องเก่าจนน็อตหลุด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าล่าสุด อาการป่วยของเด็กสองพี่น้องวัย 19 และ 11 ปี เหยื่อสนามเด็กเล่น กระเช้าเหวี่ยงหรือหนวดปลาหมึก ที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นในงานนมัสการองค์พระธาตุพนม เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา

ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ธีร์รัฐ ทิพย์นพนันท์ ผกก.สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม พร้อมด้วย พ.ต.อ.เสถียร กิ่งชา ผกก.สอบสวน สภ.ธาตุพนม พ.ต.ท.ธรรมรัตน์ พงค์เพ็งธรรม หัวหน้าพิสูจน์หลักฐาน นครพนม ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานหาสาเหตุ เบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามาจากสาเหตุ เครื่องเล่นมีสภาพเก่าใช้งานมานานกว่า 10 ปี น็อตตัวล็อคแกนรองรับกระเช้าสึก จนตัวยึดหลุดออกมา ทำให้แกนรับกระเช้าตกกระแทกพื้น เป็นเหตุให้เด็กทั้ง 2 คนที่อยู่ในกระเช้าได้รับบาดเจ็บ

ทางตำรวจได้เรียกตัว นายสุวิทย์ อายุ 59 ปี ชาว จ.หนองคาย ผู้ควบคุมเครื่องเล่น ไปสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย และแจ้งข้อกล่าวหาในข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และมีการสั่งให้หยุดบริการชั่วคราว เพื่อดำเนินการซ่อมแซมให้ได้มาตรฐาน ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำอีก ส่วนนายสุพจน์ อายุ 54 ปี ผู้ดูแลจัดการสวนสนุก ในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการได้ออกมายืนยันว่า จะรับผิดชอบทุกอย่างกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้าน นางสุวิไล วัย 35 ปี แม่ของเด็กหญิงศิริวรรณ อายุ 11 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บ ออกมาเปิดเผยว่า ตนและสามีคือ นายมงคล อายุ 54 ปี ผู้เป็นพ่อ ได้พาลูกสาวกับหลานสาว คือ นางสาวเพ็ญภิชา อายุ 19 ปี ไปเล่นเครื่องเล่นดังกล่าว เพราะทั้งสองอยากทดลองเล่น ตนและสามียืนรอด้านล่างเห็นตกลงมาต่อหน้าต่อตา ไม่คิดว่าจะเป็นการใช้เงิน 40 บาท ทำให้ลูกสาวเจ็บปวด ยังรู้สึกเจ็บปวดรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา

ส่วนอาการล่าสุดของลูกสาวยังรักษาตัวที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลนครพนม ศีรษะกระทบกระเทือนอย่างแรง แขนขวาหัก เพื่งรู้สึกตัว แพทย์เฝ้าดูอาการใกล้ชิด และหลานสาวอีกคน คือ น.ส.เพ็ญภิชา อายุ 19 ปี อาการสาหัสกระโหลกศีรษะยุบ เลือดคั่งในสมองและปอด ยังไม่รู้สึกตัว ถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสกลนคร

ส่วนการเรียกร้องยังไม่คิด เพราะขอเพียงให้ลูกสาวกับหลานสาวหายป่วย ที่สำคัญอยากฝากไปยังผู้ประกอบการที่ทำกิจการสวนสนุก อยากให้หมั่นตรวจสอบดูแล ไม่ควรมักง่าย เพราะหากผิดพลาดเกิดความสูญเสียไม่คุ้มค่า เพราะเสี่ยงกับชีวิตของคน พร้อมฝากเป็นบทเรียนไปยังพ่อแม่ ผู้ปกครอง บุตรหลาน ที่ชอบเล่นสวนสนุกอุปกรณ์เครื่องเล่นที่มีความเสี่ยงสูง ไม่ควรไปเล่น เพราะไม่คุ้มกับสิ่งที่เกิดขึ้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กระเช้างานวัดร่วงตกพื้น เด็กเจ็บสาหัส 2 พ่อแชร์คลิปนาทีสยอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook