เสี่ยร้านทองโอด ทองคำนับล้าน หายไปจากตู้เซฟแบงก์ดัง

เสี่ยร้านทองโอด ทองคำนับล้าน หายไปจากตู้เซฟแบงก์ดัง

เสี่ยร้านทองโอด ทองคำนับล้าน หายไปจากตู้เซฟแบงก์ดัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เจ้าของร้านทองขึ้นโรงพัก แจ้งความตามหาทองคำมูลค่าเป็นล้าน ล่องหนไปจากตู้เซฟธนาคาร ขอดูวงจรปิดบอกเสีย กลายเป็นกระทู้ดังบนเว็บพันทิป

จากกรณีที่มีผู้ใช้เว็บไซต์พันทิปได้โพสต์ตั้งกระทู้ที่ชื่อว่า "สะพรึงหนักมาก!! [ร้องเรียน] ทองหายในตู้นิรภัยธนาคารจำกัด กว่าหกสัปดาห์ที่ร้องเรียนแล้วเงียบ เอกสารที่ขอก็ไม่ได้" จนได้รับความสนใจในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับทรัพย์สินที่ฝากไว้ในเซฟธนาคารแห่งหนึ่งสูญหายไป เมื่อขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด กลับระบุว่ากล้องเสีย

เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (25 ก.พ.) นายวิวัฒน์ชัย อายุ 69 ปี เจ้าของร้านทองเยาวราช อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องราวดังกล่าว ได้เดินทางเข้าร้องเรียนกับ  พ.ต.ท.อรุณ ร่วมสุข พนักงานสอบสวน สภ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ หลังจากที่ได้แจ้งความกรณีนี้เอาไว้ เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา

นายวิวัฒน์ชัย เปิดเผยว่า ได้เช่าตู้นิรภัยหมายเลข 11 ไว้ในธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง สาขาจอมทอง ตั้งแต่ปี 2554 เพื่อเอาไว้เก็บทรัพย์สินมีค่า เช่น ทองรูปพรรณ ทองคำแท่ง หรือโฉนดที่ดิน ต่อมาทางธนาคารแจ้งว่า ได้ทำตู้นิรภัยเพิ่มเติม จึงเปิดให้เช่าตู้นิรภัยขนาดใหญ่ หมายเลข 64 เพิ่มอีกตู้ เมื่อเดือนเมษายน 2558

กระทั่งวันที่ 9 ธันวาคม 2558 ตนได้นำเอาทองรูปพรรณ 4 กล่อง พร้อมกับโฉนดที่ดินไปใส่ไว้ในตู้นิรภัยหมายเลข 64 เพื่อรอให้ร้านทองแห่งใหม่ตกแต่งเสร็จ ต่อมาในวันที่ 24 ธันวาคม 2558 ตนไปขอเปิดตู้นิรภัยตรวจสอบทรัพย์สิน พบว่า ทองรูปพรรณที่เก็บไว้ น้ำหนักรวม 880 กรัม มูลค่ากว่าล้านบาท ได้สูญหายไป พยายามติดต่อกับผู้จัดการสาขาแต่ไม่อยู่ข้ามปี

วันที่ 4 มกราคม 2559 ตนได้เข้าร้องทุกข์ที่ สภ.จอมทอง เพื่อต้องการติดต่อกับผู้จัดการสาขาและขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด แต่กลับได้รับการแจ้งว่า กล้องวงจรปิดหน้าตู้นิรภัยขัดข้อง ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคมเป็นต้นมา จึงไม่สามารถตรวจสอบภาพย้อนหลังได้

นายวิวัฒน์ชัย ยังบอกอีกว่า หลังจากนั้นจึงปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนตัดสินใจแจ้งความเอาไว้ ลูกสาวที่อยู่ต่างประเทศก็ช่วยร้องเรียนสอบถามกับทางธนาคารและตั้งกระทู้ร้องเรียนในเว็บไซต์พันทิปให้ แต่เรื่องราวผ่านไปเดือนเศษยังไม่มีอะไรคืบหน้า เมื่อตนขอสำเนาเอกสาร เพื่อเปิดและเข้าห้องตู้นิรภัยก็ถูกปฏิเสธกลับ

สำหรับการเช่าตู้นิรภัยของธนาคาร เพื่อเก็บทรัพย์สินนั้น ตนในฐานะผู้เช่ามีกุญแจเปิดเซฟทั้งหมด 2 ดอก แต่ก่อนเข้าไปเปิดได้นั้น จะต้องเข้าไปแจ้งความจำนงกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร พร้อมเซ็นเอกสาร จากนั้นเจ้าหน้าที่จะขอกุญแจจากตนเองไปเปิดตู้เซฟให้ทุกครั้ง นอกจากนี้ นายวิวัฒน์ชัย อ้างว่า  มีเจ้าหน้าที่ของธนาคารคนหนึ่งที่รู้จักคุ้นเคยกันดี เคยเข้าไปดูทรัพย์สินของตนเองในตู้นิรภัยด้วย  

ทั้งนี้ หลังเกิดกรณีดังกล่าว นายวิวัฒน์ชัย จึงได้ขนทรัพย์สินทั้งหมดที่ฝากไว้ในตู้นิรภัยออกจากธนาคารไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย ขณะที่กรณีดังกล่าวไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารแล้ว แต่แจ้งกลับมาว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลภายใน ผู้เสียหายจึงหวังว่าจะได้รับความยุติธรรมจากเหตุที่เกิดขึ้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook