น้องไอดิน ทารกถูกแทง 14 แผล ยังคงทรงตัว

น้องไอดิน ทารกถูกแทง 14 แผล ยังคงทรงตัว

น้องไอดิน ทารกถูกแทง 14 แผล ยังคงทรงตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กำชับให้ตำรวจ 5 อำเภอ สนธิกำลังเข้าสืบสวนหาพ่อแม่เด็กทารก ขณะที่อาการของเด็กทารกยังรู้สึกตัวดี แต่ยังต้องใส่ท่อช่วยหายใจ

(25 ก.พ.) ทางโรงพยาบาลขอนแก่น ได้แถลง "น้องไอดิน" เด็กทารกที่ถูกทำร้าย ขณะนี้ยังคงรักษาตัวอยู่ที่หอผู้ป่วยทารกแรกเกิดระยะวิกฤต 1 อาการเด็กวันนี้ยังรู้สึกตัวดี แพทย์ต่อท่อช่วยหายใจ แพทย์ได้ลดเครื่องช่วยหายใจและเปลี่ยนตำแหน่งสายระบายลมจากช่องเยื่อหุ้มปอด เนื่องจากภาพถ่ายรังสีทรวงอก ยังมีลมที่ช่องเยื่อหุ้มปอด ไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดๆ ยังงดให้น้ำและอาหาร ให้สารละลายและยาปฎิชีวนะ 3 ชนิด ทางหลอดเลือดดำ โดยแพทย์ยังคงเฝ้าระวังการติดเชื้อ

ขณะที่ทางโรงพยาบาลขอนแก่น มีผู้มีจิตศรัทธาได้ติดต่อบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือ "น้องไอดิน" จำนวนมาก แต่ทางโรงพยาบาลไม่มีการรับบริจาค ทางโรงพยาบาลไม่มีการตั้งมูลนิธิแต่อย่างใด ขอเตือนประชาชนระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจแอบอ้าง หากต้องการจะบริจาคทางโรงพยาบาลขอนแก่นยินดีที่จะรวบรวมสิ่งของ เพื่อส่งต่อให้กับหน่วยงานสุดท้าย ที่จะรับเด็กคนดังกล่าวไปดูแล

พ.ต.อ.ศุภากรณ์ คำสิงห์นอก รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ในฐานะหัวหน้าชุดคลี่คลายคดี ได้เรียกประชุมชุดสืบสวนสอบสวน

ตำรวจภูธรภาค 4 ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ตำรวจ สภ.ชนบท สภ.โนนศิลา สภ.พล และ สภ.แวงน้อย ซึ่งเป็นพื้นที่อำเภอที่ติดกับอำเภอแวงใหญ่ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ รวมทั้งตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 4 เข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจดีเอ็นเอ ที่ติดอยู่ในเสื้อที่ใช้ห่อตัวเด็กทารกในวันเกิดเหตุ เพื่อร่วมในการหาเบาะแสของคนร้าย

รองผู้บังคับการำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า หลังจากประชุมเสร็จจะได้ให้ชุดสืบสวนทั้ง 5 ชุด กระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเริ่มจากพื้นที่เกิดเหตุและใกล้เคียงหลักในสามอำเภอ เพื่อหาข่าวเชิงลึก โดยประสานการทำงานร่วมกับผู้นำชุมชน อสม. ในแต่ละหมู่บ้าน เพื่อหาข้อมูลหญิงที่มีการตั้งครรภ์แล้วคลอดบุตรในช่วงเวลาดังกล่าว จากนั้นนำข้อมูลทั้งหมดกลับมาประชุมกันอีกครั้งเพื่อหาความเชื่อมโยงของคดี ส่วนการตรวจดีเอ็นเอในเสื้อที่ใช้ห่อตัวนั้น คาดว่าจะทราบผลอีประมาณ 1 สัปดาห์ พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่หากมีข้อมูลหรือเบาะแส คนเป็นแม่ของทารก ก็สามารถแจ้งมายังตำรวจได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะนี้ได้มีการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยแล้ว 1 คน พร้อมทั้งเก็บดีเอ็นเอ ไปตรวจสอบเปรียบเทียบกับหลักฐานในที่เกิดเหตุที่ตำรวจได้จากเลือด เสื้อสีชมพู คาดจะทราบผลไม่เกิน 30 วัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook