ถึงเวลาวางแผน "สงกรานต์" อย่างรู้คุณค่า(น้ำ)
ปัญหาภัยแล้งปีนี้หนักหนาสาหัสจริงๆ หลายพื้นที่แม่น้ำแห้งขอด แบบไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบหลายสิบปี แม้ภาครัฐจะเตรียมการรับมือ และบอกสถานการณ์พร้อมทั้งขอความร่วมมือ กับประชาชนโดยเฉพาะ ภาคเกษตรที่ต้องใช้น้ำในการเพาะปลูกให้เตรียมตัวรับมือ ปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกไปปลูกพืช ที่กินน้ำน้อย และมีโอกาสทางการตลาด ทำให้หลายคนประสบความสำเร็จสามารถสร้างรายได้ทดแทนจากการปรับเปลี่ยนการเพาะปลูก มีบางรายมีรายได้ดีกว่าการเพาะปลูกเดิมก็มี
มาถึงวันนี้ การรับมือกับภัยแล้ง โดยภาพรวมยังถือว่าทุกฝ่ายยังเดินหน้าไปได้ แม้จะเดือดร้อนกันมากก็ตาม และเช่นกัน ในช่วงหน้าร้อน ซึ่งมีเทศกาลที่สำคัญของไทยที่มีการใช้น้ำกันมาก ถึงขั้นฟุ่มเฟือยเลยก็ว่าได้ นั้นคือ เทศกาลสงกรานต์ ในวันที่ 13-15 เม.ย.ของทุกปี
ปีนี้เนื่องจากประเทศเผชิญปัญหาภัยแล้ง ทำให้หลายฝ่ายตระหนักในเรื่องดังกล่าว และเริ่มวางแผนบริหารจัดการการใช้น้ำในช่วงเททศกาลสงกรานต์ให้เหมาะสม โดย ทาง กทม.หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการท่องเที่ยวและภาคเอกชนได้มีการประชุมแนวทางไปแล้ว และมีมติดังนี้
"ที่ประชุมมีมติให้จัดงานประเพณีสงกรานต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทุกแห่ง เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 12-14 เมษายน ภายใต้คำขวัญ "ประเพณีสงกรานต์แบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า" โดยอนุญาตให้เล่นน้ำถึงเวลา 21.00 น.เท่านั้น และยังคงมาตรการ 4 ป.คือ ปลอดแอลกอฮอล์ ปลอดโป๊ ปลอดปืนฉีดน้ำขนาดใหญ่ และปลอดแป้ง แต่จะเพิ่มอีก ป.คือ ประหยัดน้ำ"
ถือได้ว่า เป็นทิศทางที่ดีที่ กทม.ออกมา กำหนดแนวทางของงานประเพณีอย่างชัดเจน คำนึงถึงการบริหารน้ำอย่างจริงจัง ซึ่งแนวทางนี้ น่าจะเป็นแบบอย่างให้กับทุกจังหวัดได้เอาไปเป็นแนวทางในการจัดงานสงกรานต์ ของทุกจังหวัด
ทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องประชุมและออกแบบการจัดงาน กันตั้งแต่เนิ่นๆ เช่นกัน พร้อมกับรณรงค์เผยแพร่แนวทางให้ประชาชน เข้าใจ เพื่อทำให้งานประเพณี เทศกาลสงกรานต์มีมนต์เสน่ห์ มีเอกลักษณ์ ขึ้นมาโดยไม่นำน้ำมาใช้อย่างฟุ่มเฟือย
การเข้าวัดทำบุญ พรมน้ำปะแป้ง ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิม ไม่ใช้การสาดน้ำกันโครมครามแบบปัจจุบัน อาจจะกลับมาและมีเสน่ห์ขึ้นมาอีกครั้ง ก็ได้
และในเทศกาลสงกรานต์ที่มีวันครอบครัวอยู่ด้วยนี้ การได้อยู่ร่วมกิจกรรมกันในครอบครัวพ่อ แม่ พี่น้อง ญาติสนิทมิตรสหาย ทำให้สถาบันครอบครัว ชุมชนกลับมามีความอบอุ่น เรียบง่าย อาจจะเป็นโอกาสแห่งการปรับความเข้าใจกันของคนในครอบครัว ของคนในชุมชน ผ่านเทศกาลสงกรานต์ ถือเป็นโอกาสในการคืนความสุขความเข้าใจกันของสังคม ก็อาจเป็นไปได้....
โดย...เปลวไฟน้อย