ตายายคดีเก็บเห็ดป่า พบ ป.จี้ขอหาผู้ต้องหาที่แท้จริง

ตายายคดีเก็บเห็ดป่า พบ ป.จี้ขอหาผู้ต้องหาที่แท้จริง

ตายายคดีเก็บเห็ดป่า พบ ป.จี้ขอหาผู้ต้องหาที่แท้จริง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สองตายายคดีเก็บเห็ดป่า พบ กองปราบ ขอหาตัวผู้ต้องหาบุกรุกที่แท้จริง

นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้าน การบ่อนทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมด้วย นายอุดม ศิริสอน และ นางแดง ศิริสอน สองตายายที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเก็บเห็ดป่า เข้าพบ พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อติดตามความคืบหน้าการติดตามหาตัวผู้ต้องหาที่แท้จริงที่ก่อเหตุบุกรุกตัดไม้ต้องห้าม 700 ท่อน ในเขตป่าสงวนพื้นที่ 72 ไร่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่เคยเข้าแจ้งความไว้เมื่อเดือนมกราคม 2557 และเพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่อ้างตัวเป็นตำรวจและเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ลักษณะข่มขู่คุกคาม 2 ตายาย โดยเหตุเกิดเมื่อต้นเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ นายสงกานต์ ระบุว่า คดีนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนข้อเท็จจริงในชั้นศาลฎีกา ซึ่งพบว่ามีการกล่าวหา 2 ตายาย ว่า ร่วมกันบุกรุกตัดไม้แพ้วถางป่า ในเขตป่าสงวน 72 ไร่ ขัดแย้งกับคำให้การต่อพนักงานสอบสวนครั้งแรก ที่สอบคำให้การยืนยันว่า เป็นการเข้าไปเก็บเห็ดป่าเท่านั้น อีกทั้งคดีนี้มีหลักฐานเพียงรถจักรยานยนต์ของ นายอุดม ที่จอดทิ้งไว้ในป่าเพียงคันเดียว

ส่วนที่ นายอุดม ให้การรับสารภาพในศาลชั้นต้นและชั้นอุทธรณ์ เกิดจากความเข้าใจผิดว่าเป็นคดีเก็บของป่า เนื่องจากมีความบกพร่องทางการได้ยิน และอ่านหนังสือไม่ออก ศาลจึงมีคำพิพากษาจำคุก 30 ปี และลดโทษเหลือ 15 ปี ต่อมาเมื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาชั้นศาลฎีกา ศาลพิจารณาพบว่ามีประเด็นต้องสงสัย จึงให้ดำเนินการสืบเสาะหาข้อเท็จจริง และให้ปล่อยตัวชั่วคราว

ต่อมาจึงได้ไปร้องเรียนหน่วยงานต่าง ๆ จนปรากฏข้อเท็จจริงที่น่าเชื่อว่าเป็นการกล่าวหาเกินจริง จึงได้มาร้องเรียนที่กองปราบปรามเมื่อต้นปีที่แล้ว เพื่อขอให้ติดตามจับตัวคนร้ายตัวจริงมาลงโทษ และในระหว่างรอฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในวันที่ 20 เมษายน นี้ ปรากฏมีผู้ที่อ้างตัวเป็นตำรวจ และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ ไปเข้าพบ 2 ตายาย อ้างว่าเพื่อมาเจรจาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

และต่อมาในวันที่ 11 มีนาคม มีคนอ้างตัวเป็นตำรวจจะมาติดต่อขอให้รับตัวไปพบนายตำรวจ แต่เมื่อไม่ได้พบกลับมีพฤติกรรมบุกค้นรถโดยไม่มีหมายค้น มีพยานเห็นเหตุการณ์ เชื่อว่าอาจเป็นการข่มขู่คุกคาม ในวันนี้จึงมาแจ้งความเพื่อขอให้ตำรวจกองปราบ สืบสวนหาข้อเท็จจริง และดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุดังกล่าวต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook