รุมประณามชาวเกาะ โกโกยา’ล่ามพะยูนแม่ลูก’ ‘ขังกรงใต้น้ำ’เก็บเงินนักท่องเที่ยว

รุมประณามชาวเกาะ โกโกยา’ล่ามพะยูนแม่ลูก’ ‘ขังกรงใต้น้ำ’เก็บเงินนักท่องเที่ยว

รุมประณามชาวเกาะ โกโกยา’ล่ามพะยูนแม่ลูก’ ‘ขังกรงใต้น้ำ’เก็บเงินนักท่องเที่ยว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเว็บเพจ Thon Thamrongnawasawat ของ รศ.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดเผยเรื่องราว ที่เป็นข้อมูลจาก The Dodo เขียนโดย Stephen Messenger และเผยแพร่ภาพ วันที่ 16 มีนาคม โดยระบุว่า ที่ เกาะโกโกยา (kokoya) ประเทศอินโดนีเซีย ชาวบ้านมาเชิญชวนนักดำน้ำกลุ่มหนึ่งว่า อยากเห็นพะยูนไหม หากอยากเห็นให้จ่ายเงินมา จากนั้นก็พาไปดูพะยูนแม่ลูกถูกผูกไว้ในกรงใต้ทะเล

เมื่อนักดำน้ำ ดำลงไปดู พบพะยูนแม่ลูกคู่หนึ่ง ถูกล่ามเอาไว้ในกรงที่อยู่ใต้น้ำ โดยแม่ถูกล่ามไว้ในกรงหนึ่ง ลูกอยู่อีกกรง โดยที่พะยูนตัวแม่พยายามว่ายขึ้นลงสอดสายตาหาลูกน้อยอยู่ตลอดเวลา ที่บริเวณหางของพะยูงตัวแม่มีเชือกรัดเอาไว้ จนสังเกตได้ชัดว่ามีบาดแผลใหญ่ โดยที่ชาวบ้านขอเงินอีกหากนักดำน้ำอยากถ่ายภาพ โดยเรื่องนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงความเห็นแก่ตัวของชาวบ้านกลุ่มนี้

รศ.ธรณ์ระบุว่า ไม่ต้องถามว่าเรื่องนี้สมควรทำหรือไม่ และไม่ต้องถามว่าพะยูนจะเป็นไง เพราะมันคงเจ็บมากและคงตายในไม่ช้า สิ่งที่ควรถามคือคิดทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร

"แม้เป็นเหตุการณ์ในต่างประเทศ แต่ผมเชื่อว่าคนรักทะเลในอินโดนีเซียคงไม่รอช้า พวกเขาจะรีบช่วยพะยูนสองตัวนี้แน่นอน จึงอยากส่งกำลังใจไปให้เพื่อนๆ อินโดครับ ผมเชื่อว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดในเมืองไทย แต่อยากให้ดูเป็นอุทาหรณ์ เงินใครก็อยากได้ การท่องเที่ยวนำรายได้มาเร็ว แต่เราต้องหาเงินให้ถูกทางนักท่องเที่ยวยินดีไปที่นั่นแล้วไม่เจอพะยูน แต่ทราบว่าพะยูนมีความสุขดีในทะเลแถวนั้น มากกว่าไปเห็นพะยูนตัวเป็นๆ แต่โดนผูกหางไว้"

"โลกเราตอนนี้ยังเชื่อมต่อกันได้หมด ภาพข่าวเผยแพร่ไปทั่ว ใครเห็นก็รู้สึกไม่ดีต่อชาวบ้าน ต่อสถานที่ ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศที่เน้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการรักษาธรรมชาติในพริบตา ใช้เงินประชาสัมพันธ์เท่าไหร่ก็กู้กลับมาได้ยาก จึงอยากให้เมืองไทยดูไว้ อย่านำสัตว์ป่าสัตว์ทะเลมาหากินอย่างผิดวิธี ผลกระทบมันรุนแรงต่อสัตว์ และยิ่งแรงต่อคนที่คิดทำเช่นนั้นครับ" รศ.ธรณ์ระบุ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook