พี่น้องฝาแฝด ต้องสู้ชีวิตอยู่ลำพัง แม่หายไป-ตายายก็ตาย

 

ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่นรายงานว่า จากกระแสสื่อสังคมออนไลน์ ได้มีการแชร์ภาพขอความช่วยเหลือ เด็กหญิงฝาแฝดที่บ้านโนนเชือก ตำบลบ้านขาม อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ต้องอาศัยอยู่ตามลำพัง ไม่คนเลี้ยงดูแล จึงได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ก่อนจะพบเด็กหญิงทั้ง 2 คน พักอยู่บ้านมุงสังกะสีเล็กๆ สภาพเก่าทรุดโทรม

 

จากการสอบถามทราบว่า เด็กหญิงฝาแฝดชื่อ เด็กหญิงจันจิรา หรือ น้องเอ และ เด็กหญิงจารุวรรณ หรือ น้องบี ทั้งคู่อายุ 14 ปี พร้อมกับเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่พ่อเสียชีวิตลงเมื่อหลายปีก่อน ก็ต้องอาศัยอยู่กับตาและยายที่บ้านหลังนี้ ผู้เป็นแม่ตัดสินใจหนีไปหางานทำที่กรุงเทพฯ

 

กระทั่งล่าสุด ตาและยายได้เสียชีวิตลงทั้งหมดแล้ว ทำให้ตนทั้ง 2 คนต้องใช้ชีวิตอยู่กันตามลำพัง ยึดอาชีพหาปลาและเก็บผัก นำไปขายให้กับคนในหมู่บ้าน เพื่อหาเงินประทังชีวิตไปวันๆ ส่วนหนึ่งก็เก็บไว้ไปโรงเรียน ที่ผ่านมาทั้ง 2 ต้องผลัดเปลี่ยนกันขาดเรียนหนังสือ เพื่อต้องหาเลี้ยงชีวิตกันเอง

 

นายสังวาล อินทะเกตุ ชาวบ้านละแวกดังกล่าว ยังเล่าเรื่องราวของครอบครัวนี้ให้ฟังว่า ตอนที่เด็กฝาแฝดเกิดมาได้ 2 สัปดาห์ พ่อของเด็กที่ตอนนั้น อายุ 25 ปี ประสบอุบัติเหตุล้มศีรษะกระแทกพื้น ขณะกำลังเล่นฟุตบอล ทำให้เสียชีวิต เด็กๆ จึงได้อยู่กับ นางจันดา ผู้เป็นแม่ และต่อมาก็หนีไปทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ก็ยังส่งเงินกลับมาเดือนละ 1,000 บาท ทำได้ประมาณ 2 ปี ก่อนขาดส่งและขาดการติดต่อไป

 

ภาระหน้าที่จึงตกเป็นของ นายวรรณณา และ นางกำบัง ผู้เป็นตายาย ต้องเลี้ยงดูหลานสาวฝาแฝดมาโดยตลอด และคอยส่งให้เรียนหนังสือเข้าโรงเรียน กระทั่งเมื่อ 2 ปีก่อน ผู้เป็นตายได้ป่วยเป็นโรคตับแข็งและเสียชีวิต ต่อมาอีกแค่ 3 เดือน ผู้เป็นยายก็มาเสียชีวิตด้วยโรคเก๊าท์ จึงปล่อยให้เด็กแฝดทั้ง 2 คน ต้องสู้ชีวิตเพียงลำพัง ทำให้เด็กๆ ต้องหางานรับจ้างทำประทังชีวิต

 

เด็กหญิงฝาแฝด ฝันอยากได้รถจักรยาน เพื่อเอาไว้ปั่นไปโรงเรียน อยากได้ชุดนักเรียนใหม่ รวมทั้งข้าวสารอาหารแห้ง หลอดไฟให้แสงสว่าง จึงวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลเด็กหญิงฝาแฝดคู่นี้ด้วย ซึ่งอนาคตทั้งคู่อยากเรียนจบปริญญา และมีอาชีพเป็นพยาบาลกับตำรวจ เพียงเพราะต้องการดูแลรับใช้ประชาชนยากลำบาก