เปิดใจพยาบาลสาวใจงาม เผยวินาทีปั๊มหัวใจช่วยชีวิตชายวัย 60 ระบุทำเต็มที่แล้ว
วันที่ 23 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่มีคลิปภาพเหตุการณ์หญิงสาวรายหนึ่งลงไปช่วยปั๊มหัวใจให้กับชายวัย 60 ปีเศษ ที่ประสบอุบัติเหตุรถชนต้นไม้ โดยในภาพหญิงสาวใช้เวลาในการปั๊มหัวใจอยู่ระยะหนึ่ง จนมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธเข้ามาช่วย แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถยื้อชีวิตชายคนดังกล่าวไว้ได้
โดยภายหลังจากที่คลิปภาพนี้ได้เผยแพร่ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความชื่นชมหญิงสาวรายดังกล่าวเป็นอย่างมาก และได้มีการค้นหาตัวตนที่แท้จริงของเธอ จนพบว่าเธอเป็นพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร
ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามพยาบาลสาวรายนี้ ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวนภาพร ธาตุประเสริฐ อายุ 31 ปี ทำงานเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลสมุทรสาครมานาน 9 ปี ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ แผนกผู้ป่วยวิกฤติศัลยกรรม (ICU) ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและวินาทีที่ต้องพยายามยื้อชีวิตชายวัย 60 ปี ให้ฟื้นคืนกลับมาให้ได้นั้น
นางสาวนภาพร เล่าว่า ในวันดังกล่าวตนไปทำธุระที่อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี และกำลังจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อไปทำธุระต่ออีกที่หนึ่ง แต่เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเห็นมีรถยนต์คันหนึ่งด้านหน้าชนติดกับต้นไม้ด้านข้างยุบ และมีคนยืนดูประมาณ 2-3 คน แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บในรถ
จึงได้จอดรถลงไปดู ก็เห็นชายสูงวัยอายุประมาณ 60 ปีเศษ สลบอยู่ในรถตรงที่นั่งคนขับโดยไม่คาดเข็มขัดนิรภัย เมื่อลองจับชีพจรก็พบว่าไม่มีสัญญาณชีพจรแล้ว จึงได้ให้คนช่วยพาร่างของผู้บาดเจ็บลงมาจากรถด้วยความระมัดระวัง
จากนั้นตนก็ลงมือปั๊มหัวใจหวังช่วยให้ชีพจรกลับมาเต้นอีกครั้ง ส่วนคนที่อยู่ด้วยก็ช่วยโทรศัพท์แจ้ง 1669 ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิขุนรัตนาวุธมาถึง พร้อมเครื่องมือช่วยฟื้นคืนชีพ แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว ทุกคนไม่สามารถช่วยยื้อชีวิตชายสูงวัยไว้ได้
และจากการสอบถามญาติของผู้เสียชีวิตที่เดินทางมาในที่เกิดเหตุบอกว่า ผู้ตายมีโรคประจำตัวหลายโรค และเพิ่งจะขับรถออกมาจากบ้านที่อยู่ห่างไปไม่ถึง 50 เมตร เพราะกำลังขนย้ายของเพื่อย้ายบ้านใหม่กัน
นางสาวนภาพร กล่าวอีกว่า จากที่ได้สอบถาม รปภ.ที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า เพิ่งจะเกิดอุบัติเหตุได้ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น สาเหตุของการเสียชีวิตจึงคาดว่าชายสูงวัยคนนี้ น่าจะเสียชีวิตจากอาการโรคหัวใจกำเริบเฉียบพลัน หรือโรคประจำตัวกำเริบมากกว่า เพราะถ้าเป็นอุบัติเหตุเนื่องจากรถเสียหลักหรือชนกับรถอื่นจนพุ่งชนต้นไม้ ระยะเวลาเพียงแค่ 5 นาที ยังจะสามารถช่วยฟื้นคืนชีพได้ แต่ถ้าเป็นการเสียชีวิตที่มาจากอาการภายในร่างกายแล้ว จะไม่สามารถช่วยได้หรือช่วยได้ยากมาก
ในมุมมองของพยาบาลคือ เรื่องของการช่วยชีวิตหรือการช่วยฟื้นคืนชีพเบื้องต้นนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก จึงคิดว่าน่าจะมีการฝึกสอนตั้งแต่ในสถานศึกษา สถานประกอบการ และหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนทุกแห่ง หากเกิดเหตุการณ์ที่ต้องช่วยเหลือผู้ที่ชีพจรหยุดเต้นเฉียบพลัน จะได้สามารถให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นได้ก่อนถึงมือแพทย์
และที่สำคัญคือ สติ เมื่อเราไปประสบเหตุการณ์แบบนี้ จะต้องตั้งสติ โทรแจ้งสายด่วน 1669 หรือ 191 ทันที ประกอบกับถ้าเราไม่มีความชำนาญก็อย่าเข้าไปเคลื่อนย้ายร่างกายผู้บาดเจ็บ เพราะอาจจะทำให้มีอาการบาดเจ็บหนักกว่าเดิม
ทั้งนี้ นางสาวนภาพร กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับตนรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถช่วยชีวิตชายสูงวัยผู้นี้ไว้ได้ แต่ทั้งนี้ก็ได้ทำดีที่สุดแล้ว และทำด้วยหัวใจที่อยากจะช่วยเหลือคนเจ็บอย่างเต็มที่ ทำเท่าที่พยาบาลคนหนึ่งจะทำได้ ณ วินาทีนั้น
และตนก็ขอขอบคุณทุกคนหลังจากที่เห็นคลิปที่ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิถ่ายไว้ และนำไปขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์ก แล้วก็ได้เข้ามาให้กำลังใจและชื่นชมการช่วยเหลือชีวิตคนในครั้งนี้