หนุ่มง้อไม่สำเร็จยิงเมียเก่าดับ ต่อหน้าลูกสาววัย 14

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (23 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. สน.อุดมสุข รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดภายในชุมชนมหาดไทย 4 ถนน ม.ราม 2 เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 28 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณปากทางเข้าชุมชนพบศพ น.ส.อุไรรัตน์ อายุ 31 ปี ใส่เสื้อยืดสีเลือดหมู คลุมทับด้วยเสื้อสีม่วง นุ่งกางเกงยีนสีดำ ใส่รองเท้าผ้าใบ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธขนาด 9 มม.เข้าที่ใต้เบ้าตาขวา 1 นัด แก้มขวาทะลุซ้าย และขาขวา ที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนตก 4 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน น.ส.ศรีรัตน์ อายุ 60 ปี มารดาของ น.ส.อุไรรัตน์ ให้การว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายวิเชียร อายุ 32 ปี ชาวกัมพูชา ซึ่งเป็นสามีเก่าของ น.ส.อุไรรัตน์ โดยทั้งคู่มีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง และอยู่กินกันมาแล้ว 14 ปี มีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนเลิกรากันเมื่อประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจาก น.ส.อุไรรัตน์ ถูกนายวิเชียรทำร้ายร่างกายอยู่เป็นประจำ

หนักสุดเคยใช้สายไฟรัดคอและโดนสากทุบหัว สาเหตจากเรื่องหึงหวง หลังเลิกรากันไป น.ส.อุไรรัตน์ ได้หนีไปทำงานเป็นแม่ครัวที่นครปฐม โดยปล่อยลูกทั้ง 2 คน ให้ตนเลี้ยง ขณะที่ฝ่ายชายได้แฟนใหม่อยู่ละแวกที่เกิดเหตุ แต่ฝ่ายชายก็ยังคงโทรศัพท์ไปพูดคุยอยู่บ่อยครั้ง เพื่อขอคืนดี

ก่อนเกิดเหตุ เมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) นายวิเชียรได้โทรศัพท์ไปหา น.ส.อุไรรัตน์ ซึ่งอ้างว่าให้กลับมาพาลูกชายวัย 8 ขวบ ไปทำบัตรประชาชนที่สำนักงานเขตประเวศ เพราะตัวเองจะไปทำธุระที่ จ.เชียงใหม่ จึงไม่ว่างพาไปเอง จนเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.อุไรรัตน์ เดินทางกลับมาที่บ้าน จากนั้นจึงออกจากบ้านไปพร้อมกับลูกสาวคนโตวัย 14 ปี เพื่อไปกดเงินที่บริเวณหน้า ม.รามคำแหง วิทยาเขตบางนา

แต่เมื่อเดินออกมาถึงจุดเกิดเหตุ นายวิเชียรได้พุ่งออกมาจากเล้าไก่ที่อยู่บริเวณทางเข้าชุมชน และพยายามพูดจาง้องอนขอคืนดี แต่ น.ส.อุไรรัตน์ ก็ปฎิเสธไม่ขอคืนดีด้วย เพราะนายวิเชียรมีแฟนใหม่แล้ว จนเกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จากนั้นนายวิเชียรจึงชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ น.ส.อุไรรัตน์ จนล้มลงเสียชีวิต ต่อหน้าต่อตาลูกสาว ก่อนหลบหนีไป

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าสาเหตุมาจากเรื่องหึงหวง โดยขณะนี้ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาโดยเร็วที่สุด เนื่องจากทราบตัวผู้ที่ก่อเหตุชัดเจนเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนให้เจ้าหน้าที่นำศพส่งนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ขอขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊กกลุ่มคนอาสา กู้ชีพ กู้ภัย Thailand