ปล่อยตัว 3 ตร.ผู้ต้องหารุมซ้อม 5 นศ. แล้ว ผกก.ชี้ หากถูกคุกคาม จะส่งตร.ไปคุ้มครอง
ผู้กำกับเมืองพิษณุโลก สั่งเร่งคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซ้อมนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ให้ความเป็นธรรม ตอบปัญหาสังคมได้ พร้อมรายงานต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ทุก 15 วัน ขณะความคืบหน้าคดีให้ตำรวจติดตามกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุ รอบเมือง เพื่อทำคดีให้สมบูรณ์
วันที่ 25 มีนาคม หลังจากผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย ที่ไล่ยิงและซ้อมนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ได้แก่ ส.ต.อ.สุบิณ นุชขำ ผบ.หมู่ กก.สส.ภ.จ.พิษณุโลก ร.ต.ท.ธนาคาร ชัยพิพัฒน์ สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก และ ร.ต.อ.วุฒิภัทร บัวอุไร สังกัดกลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.พิษณุโลก โดยให้ออกจากราชการทันที หลังจากมีการสอบสวนข้อเท็จจริง เมื่อวานที่ผ่านมา
ความคืบหน้าของคดี พ.ต.อ.สารนัย คงเมือง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก และรักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก กล่าวว่า หลังจากทางผู้บัญชการตำรวจภูธรภาค 6 ได้สั่งปลด 3 นายตำรวจที่มีพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว ก็ได้ดำเนินคดีใน6 ข้อ คือ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ,ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียเสรีภาพโดยมีอาวุธปืน ,กักขังหน่วงเหนี่ยว, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจและได้รับอันตรายสาหัส ,พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือหมู่บ้าน หรือสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำนวนเร่งด่วนและไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน
ต่อกรณีข้อสงสัยการเปลี่ยนอาวุธปืน และการเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถของอดีตตำรวจทั้ง 3 นาย ในวันก่อเหตุนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการสอบสวนอย่างชัดเจนทุกอย่าง เพื่อให้ความเป็นธรรม และตอบข้อสงสัยของสังคมได้ ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ได้กำชับมาโดยตลอด ว่าให้ทำคดีนี้โปร่งใส และรายงานให้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ทราบทุกๆ 15 วัน
ซึ่งในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่จะมีการไล่กล้องวงจรปิดตั้งแต่ที่เกิดเหตุ มีการยิงครั้งแรกที่บริเวณถนนธรรมบูชา ใต้สะพานสูง ไปจนถึงจุดบริเวณซ้อมนักศึกษา เพื่อให้คดีครอบคลุมให้มากที่สุด ซึ่งคาดว่าจะสามารถรวบหลักฐานเพิ่มเติมได้ภายใน 2-3 วัน ส่วนอดีตตำรวจ ทั้ง 3 ราย ได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้วได้ปล่อยตัวออกไปตามกฎหมายใหม่ เพื่อไปสู้คดีในชั้นศาล ในกรณีที่ผู้เสียจะหวั่นวิตกว่าจะมีการข่มขู่นั้น คงไม่สบายใจได้ เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว สถานภาพเป็นเพียงบุคคลธรรมดาเช่นกัน หากมีการคุกคามจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไปคุ้มครองผู้เสียหาย หรือ พยาน อีกครั้ง