‘แพรวา ซีวิค’ พาพ่อ ดอดพบ ‘อธิบดีคุมประพฤติ’ แจงเข้าใจผิดไม่รู้ขั้นตอน

‘แพรวา ซีวิค’ พาพ่อ ดอดพบ ‘อธิบดีคุมประพฤติ’ แจงเข้าใจผิดไม่รู้ขั้นตอน

‘แพรวา ซีวิค’ พาพ่อ ดอดพบ ‘อธิบดีคุมประพฤติ’ แจงเข้าใจผิดไม่รู้ขั้นตอน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณี น.ส.แพรวา ขับรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค ด้วยความเร็วสูงเกินพุ่งชน รถตู้โดยสาร ทะเบียน 13-7795 กรุงเทพมหานคร จนมีผู้เสียชีวิตรวม 9 คน ถูกศาลชั้นต้นตัดสินวันที่ 31 ส.ค.55 ให้จำคุก 3 ปี ฐานขับรถโดยประมาท ก่อนศาลอุทธรณ์จะเพิ่มระยะเวลารอลงอาญา อีก 1 ปี รวมเป็น 4 ปี รวมทั้งให้บำเพ็ญประโยชน์ปีละ 48 ชั่วโมง จนครบ 4 ปี ภายหลังถูกศาลตัดสิน

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ที่กรมคุมประพฤติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพรวา (นามสมมุติ) พร้อมด้วยบิดา ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ เพื่อมาพบและพูดคุยหารือเรื่องการทำงานบริการสังคม โดยหารือกว่า 1 ชั่วโมง พ.ต.อ.ณรัชต์ เปิดเผยว่า น.ส.แพรวา พร้อมด้วยบิดาได้มาพบ

โดยบิดาของ น.ส.แพรวา ระบุว่าเข้าใจผิดในเรื่องงานบริหารสังคม เพราะเห็นว่าโรงพยาบาลพระมงกุฎ เป็นหน่วยงานของรัฐเช่นกัน อีกทั้งทางโรงพยาบาล ยังได้ตั้งกรรมการขึ้นมาพิจารณา การทำงานบริการสังคมอย่างเป็นระบบ แต่ไม่ทราบขั้นตอนการปฏิบัติ ดังนั้นตนจึงได้แจงขั้นตอนการคุมประพฤติให้บิดา น.ส.แพรวา รับทราบ ทั้งนี้น.ส.แพรวา ได้ยื่นเจตจำนงในการขอทำงานบริการสังคม ด้วยการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ต่อไปอีก 48 ชั่วโมง

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวต่อว่า ได้บอกให้ น.ส.แพรวา ไปยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลอนุญาต เนื่องจากแต่เดิมนั้น ศาลได้มีคำสั่งนัดไต่สวนในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ หลังจากนี้ กรมคุมประพฤติจะได้ทำข้อตกลงให้โรงพยาบาลพระมงกุฎ เป็นสถานพยาบาลในเครือข่ายพันธมิตร ของกรมคุมประพฤติ ส่วนเรื่องการถูกคุกคามหรือลวนลามนั้นไม่ได้มีการพูดลงรายละเอียด ปล่อยให้เป็นขั้นตอนของผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่ได้ชี้แจงกับบิดาของน.ส.แพรวา กรมคุมประพฤติ ทำตามคำสั่งศาล บังคับการคุมประพฤติตามคำสั่งศาล

"เบื้องต้นรู้สึกพอใจที่ผู้ถูกคุมความประพฤติจะปฏิบัติตามเงื่อนไขการคุมความประพฤติ และคำสั่งของศาลอย่างครบถ้วน ขั้นตอนต่อไป หากศาลอนุญาตแล้ว กรมคุมประพฤติจะทาบทามให้ รพ.พระมงกุฎเกล้า เป็นภาคี และมีหนังสือส่งตัวน.ส.แพรวา อย่างเป็นทางการ เพื่อให้เข้าไปดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บที่รพ.พระมงกุฎเกล้าให้ครบ 48 ชั่วโมงที่เหลือ โดยเร็วที่สุด โดยจะมอบหมายให้พนักงานคุมประพฤติเข้าไปให้คำแนะนำและตรวจสอบอย่างใกล้ชิดต่อไป" พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook