เร่งล่า 3 คนร้ายจี้ชิงทรัพย์ 4 นทท.หน้าหาดป่าตอง สาวรัสเซียอาการยังน่าห่วง

วันที่ 2 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต กองกำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว เข้าเยี่ยมอาการของ นายลูกิน แอทตัน อายุ 30 ปีสัญชาติรัสเซีย ได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลที่มือซ้าย รักษาตัวที่โรงพยาบาลป่าตอง และ นางสาวโอโบโดวา อเล็กซานทรา อายุ 21 ปีสัญชาติรัสเซียได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลที่ ข้อมืซ้าย เข่าขา และช่องท้อง รักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต

ซึ่งทั้งสองเป็นนักท่องเที่ยว ที่ถูก 3 คนร้าย ใช้มีดจี้ชิงทรัพย์ ขณะเดินกลับจากเล่นน้ำที่ชายหาด บริเวณฝั่งตรงข้ามโรงแรมเกรซแลนด์ เมื่อเวลา 04.30 ของวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งอาการของนางสาวโอโบโดวานั้นยังน่าเป็นห่วง แพทย์ยังคงทำการรักษาและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอีก 2 ราย คือนายโจวา สลิส อายุ 21 ปี และนางสาว นาตาชา อายุ 21 ปี 2 นักท่องเที่ยว สัญชาติออสเตรเลีย ที่กลับจากเล่นน้ำบริเวณหน้าโรงแรม เบเลตอง แต่แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลา 04.30 ของวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ 4 นทท.กำลังเล่นน้ำอยู่ มีคนร้าย 3 คนขับขี่จยย .มาจอดที่ริมชายหาด และทำทีมาเดินที่ชายหาด ก่อนใช้มีดพกดังกล่าวเข้าข่มขู่ นายลูกิน และ นางสาวโอโบโดวา ขณะที่เดินขึ้นจากชายหาด แต่ทั้งสองขัดขืนจึงถูกทำร้าย

โดยคนร้ายจะใช้มีดแทงทั้งสองได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่นายโจวาและนางสาวนาตาชา 2 นักท่องเที่ยว สัญชาติออสเตรเลีย ที่เล่นน้ำอยู่บริเวณหน้าโรงแรมเบเลตอง เห็นเหตุการณ์และเข้ามาสอบถาม คนร้ายจะเข้าทำร้ายนายโจวา แต่นายโจวาได้แย่งมีดจากคนร้ายได้ ทำให้คนร้ายตัดสินใจขับขี่จยย.หลบหนี ขี่ไปทางวงเวียนโลมา

ส่วนความคืบหน้าของคดีในขณะนี้ พ.ต.ท.อนุกูล หนูเกตุ รองผกก.สอบสวน สภ.กระทู้กลาวว่า ได้สอบปากคำผู้เสียหายทั้งสี่คนแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามตัวคนร้าย โดยเบื้องต้นได้นำหลักฐานมีดพกขนาด 4 นิ้วที่คนร้ายก่อเหตุไปตรวจสอบ และให้ชุดสืบสวนเร่งดูภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 3 มาดำเนินคดีตามกฏหมาย จนได้ภาพเบาะแสคนร้ายเพิ่มเติมแล้วบางส่วน ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลาติดตามจับกุมไม่นาน

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.ต.ธีรพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผกก.สภ.กระทู้เร่งติดตามคดี พร้อมทั้งหามาตรการดูแลความปลอดภัยนทท.เพิ่ม โดยเฉพาะการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราในช่วงค่ำ คืนและในจุดเสี่ยง เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว