"ศานิตย์" เผยช่องท้องต่างชาติถูกฆ่าทิ้งคลอง พบสิ่งแปลกปลอม รอชันสูตรโยงมูลเหตุจูงใจ ตั้ง 4 ปม

เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ สน.สำราญราษฎร์ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รรท.ผบช.น. เรียกประชุมฝ่ายสืบสวนกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บก.สส.บช.น.) ฝ่ายสืบสวนสน.สำราญราษฎร์ และกองบังคับการตำรวจนครบาล 6(บก.น.6) เพื่อเร่งรัดคดีพบศพลอยน้ำยัดในกระเป๋าสีดำในคลองโอ่งอ่าง คาดว่าเป็นชาวอินเดีย เมื่อวันที่ 3 เมษายน โดยใช้เวลาในการประชุมกว่า 1 ชั่วโมง

โดย พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวว่า จากหลักฐานที่พบเชื่อมโยงกับการชันสูตรของนิติเวช ว่าน่าจะเป็นชายชาวเอเชีย แถบประเทศอินเดีย หรือประเทศโซนใกล้เคียง สูง 150 เซนติเมตร เพราะหลักฐานที่พบทั้งถุงพลาสติกมียี่ห้อที่มีขายในประเทศอินเดียและภูฏาน ถุงพลาสติกบรรจุแป้งโรตี ถุงหมาก ถุงยาเส้นไม่มีขายในประเทศไทย ส่วนสาเหตุสันนิษฐานว่ามาจากเหตุความขัดแย้งทะเลาะวิวาททั่วไปไม่น่าจะเป็นกลุ่มมาเฟียหรือคนร้ายวางแผนฆาตกรรม บาดแผลเป็นลักษณะการฟันหลายแผล น่าจะมาจากการแรงจูงใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ก่อนนำศพยัดใส่กระเป๋ามาทิ้งอำพราง ทั้งหมดต้องรอการทำงานของฝ่ายสืบสวนก่อน เพราะขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร

พล.ต.ท.ศานิตย์ กล่าวต่อว่า มอบหมายให้ฝ่ายต่างๆ ไปติดตามคดี ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ กล้องวงจรปิด และประสานสถานทูตอินเดีย รวมถึงสถานทูตในโซนเอเชีย ให้ช่วยเร่งตรวจสอบบุคคลสูญหาย รวมถึงลงพื้นที่เป้าหมายที่มีชาวอินเดีย เพื่อหาเบาะแสผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ ตั้งประเด็นไว้ครอบคลุม ทั้งความขัดแย้งส่วนตัว ทะเลาะวิวาท ปล่อยเงินกู้ รวมถึงยาเสพติด นำมาประกอบผลตรวจสอบทางนิติเวช หาสาเหตุและแรงจูงใจในการก่อเหตุ

ทั้งนี้ พล.ต.ท.ศานิตย์ ยอมรับว่า ในท้องของผู้เสียชีวิต มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ ต้องรอผลผ่าชันสูตรศพว่า เป็นมูลเหตุจูงใจในการฆาตกรรมหรือไม่

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 ในฐานะรองโฆษก ตร. กล่าวว่า สภาพศพถูกบรรจุในถุงผ้าลอยน้ำขึ้นมาและมีประชาชนพบเห็น ทั้งนี้จากการตรวจสภาพศพมีบาดแผลจากของมีคมกว่า 10 แผลจนเสียชีวิต

ขณะเดียวกันจากการตรวจเอกสารไม่ปรากฏว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร แต่จากหลักฐานทั้งหมดพบผลหมากที่บรรจุอยู่ในห่อ ชื่อว่า "ราชินีจันทรา" เป็นที่นิยมของคนพม่า อินเดีย และปากีสถาน นอกจากนี้ยังพบเป็นยาเส้น และถุงผงโรตีที่ใช้ประกอบอาหาร เบื้องต้นส่งให้กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว

พล.ต.ต.ทรงพล กล่าวต่อว่า ชุดสืบสวนแบ่งงานติดตามคนร้าย ค้นหาเป็นชั้นใน ชั้นกลาง ชั้นนอก จากบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบเส้นทางการสัญจรของคนร้ายที่นำศพมาทิ้ง ตรวจสอบกล้องวงจรปิด คาดว่าใช้ระยะเวลา 3-4 วัน น่าจะมีความคืบหน้า ส่วนแนวทางการสืบสวนเริ่มตั้งแต่พิสูจน์ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ประกอบอาชีพอะไร พักอยู่กับใคร วันเกิดเหตุอยู่ที่ไหน ขณะนี้ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้งไป ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ต้องรอการพิสูจน์อีกครั้ง ขณะที่ศพของผู้เสียชีวิตนำไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ โดยทีมแพทย์จะผ่าชันสูตรภายในวันนี้