ผู้ใหญ่บ้านคดี "น้องสโนว์" ยังยิ้มได้ ตำรวจนำตัวฝากขัง-ค้านประกัน
(5 เม.ย.) ความคืบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย นำหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าจับกุมตัว นายกฤติเดช อายุ 34 ปี ผู้ใหญ่บ้านสีถาน หมู่ 15 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุพยายามข่มขืนและทำร้ายร่างกาย น้องสโนว์ นักเรียนหญิงชั้น ม.6 โรงเรียนร่องคำ อ.ร่องคำ จ.กาฬสินธุ์จนเสียชีวิต โดยจับกุมได้ที่บริเวณหอประชุม อ.กมลาไสย เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 4 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา ขณะที่ นายกฤติเดช กำลังนำลูกบ้านไปเกณฑ์ทหาร ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น.พ.ต.อ.วันชัย รณชาติชัย ผกก.สภ.กมลาไสย พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน นำตัวนายกฤติเดชไปตรวจสุขภาพ เพื่อยืนยันถึงความปลอดภัยในระหว่างถูกควบคุมตัว โดยผู้ต้องหาอยู่ในอาการนิ่งเฉย ยังมีรอยยิ้มให้เห็น แต่บางครั้งแววตามีความวิตกกังวล ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องติดตามเพื่อป้องกันผู้ต้องหาคิดทำร้ายตนเอง บรรยากาศการตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลกมลาไสย มีประชาชนที่รู้ข่าวต่างพากันตะโกนสาปแช่งและหวิดที่จะถูกรุมประชาทัณฑ์ แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถนำตัวออกมาอย่างได้อย่างปลอดภัย
จากนั้นเวลา 14.30 น.มีรายงาน พนักงานสอบสวนนำตัวนายกฤติเดช ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ครั้งแรก ซึ่งคดีนี้ตำรวจต้องใช้เวลากว่า 100 วัน เพื่อหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในการจับกุมคนร้าย และการฝากขังครั้งนี้ ผู้ต้องหาจะถูกนำตัวไปขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อรอผลทางคดี
ขณะเดียวกัน ครอบครัวน้องสโนว์ ทั้งบิดา-มารดา ญาติพี่น้อง เพื่อนนักเรียน และประชาชนในหมู่บ้านใกล้เคียงได้ขอให้ตำรวจคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะถูกภัยมืดคุกคาม และหากได้รับการประกันตัวชาวบ้านจะไม่ได้รับความปลอดภัย ซึ่งผู้บังคับการฯ ยืนยันว่าคดีนี้ตำรวจทำสำนวนคัดค้านการประกันตัวไว้แล้ว และเพื่อความปลอดภัยของพยาน พร้อมส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกเยี่ยมชาวบ้านตลอด 24 ชั่วโมง
พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจสุขภาพ และนำตัวไปฝากขังที่ศาล จ.กาฬสินธุ์แล้ว พร้อมทั้งคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญและอุกฉกรรจ์ สำหรับคดีนี้ในขั้นตอนกฎหมายนั้น ตำรวจสามารถฝากขังผู้ต้องหาได้ 7 ครั้ง รวม 84 วัน และในแต่ละครั้ง จะฝากขังได้ 12 วัน
แต่ไม่ทราบว่าผู้ต้องหาที่ยื่นเรื่องขอประกันตัวหรือปล่อยตัวชั่วคราวที่ศาลหรือไม่ ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาและดุลยพินิจของศาล ทั้งนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าไปตะเวนรอบหมู่บ้าน โดยเฉพาะบ้านโนนเมือง และบ้านสีฐาน ตลอดจนหมู่บ้านใกล้เคียงทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความมั่นใจและสร้างความปลอดภัยกับญาติและชาวบ้าน
พล.ต.ต.อภิชิต กล่าวต่อว่า คดีนี้ยืนยันว่าตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นและเพียงพอที่ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แม้ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธก็ตาม โดยเฉพาะรอยกัดที่บริเวณนิ้วหัวแม่มือขวาของนายกฤติเดช ซึ่งผลตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์แพทย์ ยืนยันว่าเป็นรอยฟันของมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีรอยข่วนบริเวณนิ้วชี้ขวา แก้มซ้าย เอวด้านซ้าย และหลัง รวมทั้งเศษดินและหญ้าแห้งที่พบในเสื้อผ้าของผู้ต้องหาตรงกับที่ในเกิดเหตุ อย่างไรก็ตามยังมีหลักฐานที่สำคัญคือรถจักยานยนต์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่นำไปฝากไว้กับญาติหลังเกิดเหตุ ซึ่งมีร่องรอยการเฉี่ยวชนที่ตรวจสอบแล้วปรากฏว่าเข้ากันกับรถจักรยานยนต์ ของน้องสโนว์
นอกจากนี้ยังมีพยานและหลักฐานอีกจำนวนหนึ่ง ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะจะมีผลทางคดี ดังนั้นตำรวจจึงมั่นใจ ซึ่งได้แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้อื่นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ด้านมารดาน้องสโนว์ กล่าวว่า ทราบข่าวว่าผู้ต้องหาจะประกันตัวและต่อสู้คดี ดังนั้นตนและญาติเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจึงขอให้ตำรวจคัดค้านการประกันตัว ทั้งนี้มั่นใจและเชื่อมั่นว่าพยานหลักฐานของตำรวจจะสามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหา เพื่อให้รับกรรมที่ทำไว้กับลูกสาวได้อย่างแน่นอน เพราะก่อนที่น้องสโนว์จะเสียชีวิต ช่วงระหว่างขึ้นรถพาไปโรงพยาบาลนั้นก็ได้บอกรูปพรรณลักษณะคนร้ายว่ามีรูปร่างสูงใหญ่ ท้วม พูดภาษาอีสาน ใส่เสื้อสีขาว และเป็นคนแถวนี้
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ