เปิดใจหนุ่มทวงหนี้เดือด แค้นถูกใส่ร้ายจ้างวานฆ่าไม่สำเร็จ
จากกรณีเรื่องราวการเข้าชกต่อยและทำร้ายกันอย่างดุเดือดภายในสำนักงานเทศบาลนครนครสวรรค์ ระหว่างนายนัทธ์ อายุ 54 ปี และนายศิริชัย หรือ แห้ง อายุ 53 ปี โดยมีสาเหตุจากนายศิริชัยติดหนี้นายนัทธ์แล้วไม่ใช้ ขณะต่อสู้นายนัทธ์ถูกแทงเข้าที่กกหูซ้าย จนได้บาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมานั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ทวงหนี้เดือด! แทงเลือดสาดคาเทศบาลปากน้ำโพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (7 เม.ย.) หลังจากเกิดเหตุการณ์ได้มีการแชร์คลิปวีดีโอจากกล้องวงจรปิด โดยมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย ซึ่งพบว่ามีนักเลงคีย์บอร์ดรายหนึ่ง อ้างตัวว่าเป็นญาติของนายศิริชัย ระบุข้อความถึงสาเหตุการทำร้ายกันในสถานที่ราชการทำนองว่า นายนัทธ์ได้ว่าจ้างให้นายศิริชัย จำนวนเงิน 2 แสน ให้ไปฆ่าแม่ยายและภรรยาเก่า แต่นายศิริชัยรับเงินมาแล้ว และไม่ทำงานให้ตามที่ตกลงไว้ จนเป็นเหตุทำให้เกิดการชกต่อยและทำร้ายกันเกิดขึ้น เนื่องจากนายนัทธ์ได้ทวงเงินคืนจากนายศิริชัยแต่ไม่ได้
ซึ่งหลังจากที่นักเลงคีย์บอร์ด คนดังกล่าวได้โพสต์ข้อความออกไป ก็ยิ่งทำให้มีผู้คนเกิดความสงสัย และตั้งประเด็นคำถาม พร้อมกับแชร์ข้อความต่อๆ กันไปอย่างรวดเร็ว จนสุดท้ายนักเลงคีย์บอร์ดที่อ้างตัวว่าเป็นญาตินายศิริชัย ต้องรีบลบข้อความที่โพสต์ไปในที่สุด
เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่ รพ.ปากน้ำโพ 1 ซึ่งเป็นสถานที่ที่นายนัทธ์ พักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ ถูกคมมีดของนายศิริชัยแทงเข้าที่กกหูซ้ายในระหว่างที่ชกต่อยกัน
นายนัทธ์ เปิดเผยว่า เหตุที่เข้าไปชกต่อยนายศิริชัยก่อน เนื่องจากเคยถูกนายศิริชัยขอยืมเงินเพื่อไปทำธุรกิจหลายครั้งๆ ละ 2-3 หมื่นบาท รวมกันเป็นเงินมากกว่า 2 แสนบาท แต่เมื่อยืมเงินไปแล้วกลับไม่ใช้คืน จึงทำให้ตนต้องทวงถามอยู่หลายครั้ง จนกลายเป็นว่าถูกนายศิริชัยเที่ยวไปพูดจาใส่ร้าย หาว่าตนให้เงินนายศิริชัยเป็นค่าว่าจ้างให้ไปฆ่าภรรยาเก่า และอดีตแม่ยาย เพราะแค้นที่ถูกโกงเงินไป
หลังจากที่มีคนนำเรื่องที่นายศิริชัยไปพูดให้ร้ายป้ายสีมาเล่าให้ตนฟัง จึงทำให้ตนเกิดความโมโหและแค้นฝังใจตั้งแต่นั้นมา จนกระทั่งถึงวันเกิดเหตุ ตนพาภรรยาไปทำติดต่อราชการที่ห้องงานทะเบียน ภายในสำนักงานเทศบาลนครนครสวรรค์ แล้วบังเอิญไปเห็นนายศิริชัย เดินเข้ามาภายในห้องพอดี
ประกอบกับตนมีความแค้นที่ยังฝังใจตนอยู่เต็มเปี่ยม จึงไม่รอช้าตัดสินใจตรงเข้าไปชกต่อยนายศิริชัยทันที โดยในระหว่างที่ชุลมุนอยู่นั้น ตนก็ตะโกนพูดถึงเรื่องเงินที่ถูกยืมไปตลอดเวลา และก็ไม่คาดคิดว่า จะถูกแทงสวนด้วยมีดเข้าที่กกหู จนทำให้ตนได้รับบาดเจ็บ ต้องให้แพทย์เย็บถึง 21 เข็ม
"ผมรู้สึกสำนึกผิด ที่ใจร้อนวู่วาม เข้าไปก่อเหตุทำร้ายอริ ภายในสถานที่ราชการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรที่จะเกิดขึ้น แต่ความรู้สึกในขณะนั้น มีความรู้สึกโมโหที่ถูกนายศิริชัยยืมเงินไปแล้วไม่ใช้ไม่พอ ยังถูกแต่งเรื่องใส่ร้ายป้ายสีให้ได้รับความเสียหาย จึงทำให้ขาดสติ ตรงเข้าไปก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งต้องกราบขอโทษผู้บริหารและข้าราชการสำนักงานเทศบาลฯ รวมถึงผู้ที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นด้วย"
นายนัทธ์ กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า หลังที่ตนมีเรื่องราวไปชกต่อยนายศิริชัยจนกลายเป็นข่าวโด่งดังแล้ว ปรากฏว่าก็มีข้อความใส่ร้ายทำให้ตนเสียหายในลักษณะเดิม ไปปรากฏบนเฟซบุ๊กและโปรแกรมแชทอย่างแพร่หลาย
ซึ่งตนขอยืนยันว่า เป็นข้อมูลที่ไม่จริงความจริง จึงอยากขอร้องว่าอย่าแชร์ข้อความต่อๆ กันอีก แต่ในขณะนี้ ก็ได้มีการเก็บภาพหลักฐานต่างๆ ไว้แล้ว และเตรียมจะให้ทนายยื่นฟ้องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อปกป้องชื่อเสียงแก่ตนและครอบครัวต่อไป
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ