ซี ศิวัฒน์ ส่งใจถึง ชิน น้ำตาลูกผู้ชาย..ไม่ใช่คนขี้ขลาด

ได้ใจชาวโซเชียลฯ ไปเต็มๆ สำหรับพระเอกหนุ่ม "ซี ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์" หลังเจ้าตัวโพสต์ข้อความให้กำลังใจ "ชิน ชินวุฒ อินทรคูสิน" ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว เกี่ยวกับเหตุการณ์ดราม่ากรณีที่นักร้องหนุ่มหลั่งน้ำตาหลังทราบผลเกณฑ์ทหาร เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา!!

โดยล่าสุดในงานบวงสรวงละคร "วังนางโหง" หนุ่มซี ศิวัฒน์ ก็ได้ออกมาเปิดใจถึงสาเหตุที่ทำให้ตนต้องโพสต์ข้อความดังกล่าวลงโซเชียลฯ ซึ่งงานนี้เจ้าตัวก็ได้เผยกับเราว่า...

ถามถึงเรื่องที่เราโพสต์ข้อความให้กำลังใจ ชิน ชินวุฒ ?
"คือผมก็เป็นแบบนี้อยู่แล้วนะครับ ด้วยความที่เราเป็นคนในวงการเดียวกัน ผมก็อยากจะให้กำลังใจเขา เพราะผมเชื่อว่าพี่ๆ นักข่าวทุกท่านก็น่าจะทราบดีอยู่แล้วว่าชินเขาเป็นคนต่อสู้ชีวิตมาโดยตลอด อยากให้เห็นใจเขาบ้างก็เท่านั้นเองครับ ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านั้นเลย ไม่ได้ต้องการที่จะใช้โซเชียลเพื่อจะต่อว่าใคร เพราะที่ผ่านมาตัวผมเองก็เคยได้รับบทเรียนแล้วนะครับ แต่ว่าแน่นอนบทเรียนในครั้งนั้นมันไม่ได้ทำให้ความเห็นอกเห็นใจเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกันน้อยลง ผมเพียงแค่สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ใช้พื้นที่โซเชียลในการระบายอารมณ์ของตัวเอง อีกอย่างเมื่อเราเห็นน้ำตาของคนที่เรารู้ดีว่า เบื้องลึกๆ ของเขาเป็นอย่างไร ผมก็เลยอยากจะพูดเพื่อให้กำลังใจครอบครัวเขาแค่นั้นเองครับ"

ส่วนตัวแล้วเรากับชินสนิทสนมกับมากไหม ?
"สนิทกับชินครับ แต่ไม่ได้สนิทถึงขั้นว่าคุยกันตลอดเวลา เพราะครั้งสุดท้ายที่ผมเจอเขาก็คือหลังจากงานแต่งงานของผมไม่นาน เป็นปีแล้วด้วยซ้ำ แต่พอได้มีโอกาสรับรู้เรื่องราวของเขาจากข่าว ก็เลยอยากจะให้กำลังใจ"

ชินเขาว่ายังไงบ้างตอนที่เห็นข้อความที่เราโพสต์ ?
"เขาก็ขอบคุณมาทางอินสตาแกรมครับ เราไม่ได้โทรคุยกันด้วยซ้ำ ผมไม่ได้คุยกับครอบครัวเขาเลย คือเราเคยรู้จักกันและก็แน่นอนผมรู้ว่าเขาเป็นคนยังไง ดังนั้นประเด็นแค่นิดเดียวที่ผมพูดเรื่องน้ำตาเขา มันคือเป็นน้ำตาที่มาจากความเป็นห่วงครอบครัวมากกว่า มันไม่ใช่น้ำตาของคนขี้ขลาด เป็นน้ำตาของลูกผู้ชายครับ"

แต่หลายคนก็ตัดสินชินเกี่ยวกับเรื่องทหารไปแล้ว ตรงนี้เรามีความเห็นยังไงบ้าง ?
"เอ่อ...เรื่องทหารจริงๆ สำหรับตัวผมเองผมก็ไม่อยากจะคอมเม้นท์นะครับ เพราะผมเรียน รด. มาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน อีกอย่างเรื่องตรงนี้มันแล้วแต่คนด้วยว่าใครจะคิดยังไง แต่ถ้าถามผมว่า...หากผมจะต้องมีความรับผิดชอบครั้งหนึ่งในชีวิต มันก็จำเป็นจะต้องรับผิดชอบตรงนั้น ผมไม่ได้พูดเพื่อให้ผู้ชายไทยก้มหน้าก้มตา แต่ผมมองในแง่มุมของการวางแผนชีวิต ถ้าเกิดคุณไม่อยากที่จะเป็นทหาร คุณก็น่าจะมีการวางแผนว่าคุณควรไปฝึกฝนนักศึกษาวิชาทหารก่อน เพราะเมื่อคุณโตมาและมีการมีงานทำ มีครอบครัวที่คุณต้องรับผิดชอบ คุณจะได้ไม่เสียโอกาสตรงนี้ไป ก็เท่านั้นเองครับ"

นอกจากข้อความที่โพสต์แล้วเราได้มีส่วนช่วยเหลือเขายังไงบ้าง ?
"ไม่ได้ช่วยเลยครับ ผมแค่พูดให้กำลังใจแค่นั้นเลยครับ มันเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่ให้ได้ แต่ตัวชินเองผมคิดว่า ณ ปัจจุบันนี้ชินเขาก็น่าจะภูมิใจอย่างที่บอก เพราะเขาต้องพร้อมแน่ๆ ที่จะรับใช้ชาติ และแน่นอนครอบครัวเขาจะต้องภูมิใจ ตัวผมเองก็ภูมิใจในความเป็นทหารของเขาเช่นเดียวกันครับ"

เครดิตภาพประกอบจาก Instagram @siwat_c / @chinchinawut