พ่อแม่ร่ำไห้! โผกอดลูกชายพร้อมให้อภัย ขอโทษตำรวจที่โกหก
(10 เม.ย.) จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจพระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ช่วยเหลือเด็กชาย อายุ 14 ปี ต.โพนสูง อ.ด่านซ้าย จ.เลย ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์จาก อ.ด่านซ้าย มาตามหาพี่ชายที่กรุงเทพมหานคร เพื่อกลับไปเผาศพพ่อที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย โดยได้นำตัวมาสอบถาม จน พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทราบเรื่อง และช่วยเหลือแนะนำเส้นทางในการเดินทาง ซื้อข้าวให้รับประทาน จัดหาหมวกกันน็อคให้ และให้เงินส่วนหนึ่งสำหรับเป็นค่าน้ำมันในการเดินทางกลับบ้าน สุดท้ายมาทราบเรื่องว่า เป็นการโกหก
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากพ่อแม่ของเด็กชายว่า ลูกชายของตนเองได้กลับมาที่บ้านแล้ว จึงได้เดินทางไปที่บ้าน พบพ่อหมอกำลังทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้เด็กชายอยู่ โดยพ่อ แม่ และญาติ นั่งทำพิธีอยู่
พ่อเด็กชาย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าตนได้รับโทรศัพท์จากครูของลูกชายว่า พบลูกชายขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่บริเวณทางเข้าพระบาทจำลอง เขตเทศบาลตำบลด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จึงได้เรียกหยุดและกักตัวไว้ หลังรับแจ้งได้รีบเดินทางไปรับลูกชายกลับบ้านทันที ซึ่งตนดีใจที่ลูกชายกลับมาอย่างปลอดภัย สิ่งที่ลูกชายพูดโกหกไปนั้น ได้สอบถามแล้ว ไม่ได้โกรธให้อภัยลูกเสมอ และดีใจมาก โดยในช่วงบ่ายได้เรียกพ่อหมอมาทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้ลูกชาย เพื่อเรียกขวัญกลับมา
ด้าน แม่เด็กชาย เปิดเผยด้วยน้ำตานองหน้าพร้อมกอดลูกชายไปด้วยว่า ตนเองไม่ต้องการอะไร ลูกชายกลับมาอย่างปลอดภัยดีใจจนพูดไม่ออก ได้คุยกับลูกแล้ว ลูกชายสัญญาว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว ส่วนสาเหตุที่ลูกชายหนีออกจากบ้านและต้องโกหก เนื่องจากถูกเพื่อนในแซทไลน์หลอกให้ไปกรุงเทพมหานครและโกหกตำรวจ ตรงนี้ต้องฝากขออภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจพระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วย
ขณะที่ เด็กชาย เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตนเองหนีออกจากบ้านโดยไม่บอกพ่อแม่นั้น เพราะตนได้รู้จักชายคนหนึ่งทางไลน์ โดยได้มีการชวนให้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ ได้เงินเยอะ งานสบาย จึงได้ตัดสินใจขับขี่รถจักรยานยนต์ไปกรุงเทพฯ เพื่อทำงานหารายได้ และส่วนหนึ่งส่งให้พ่อแม่ โดยนัดหมายกันที่บริเวณสวนลุมพินี
ตลอดการเดินทางชายคนดังกล่าว จะโทรมาถามตลอดเวลาว่าอยู่ถึงไหนแล้ว และขู่ไม่ให้บอกพ่อแม่ ไม่อย่างนั้นจะไม่ให้ทำงาน ถ้าขับขี่จักรยานยนต์แล้วเจอตำรวจให้โกหกว่ามาตามหาพี่ชายกลับไปงานเผาศพพ่อ ตำรวจจะสงสารและไม่จับ จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกจึงนึกคำพูดได้ ปรากฏว่าใช้ได้จริง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจซื้อหมวกกันน็อค ซื้อข้าวให้กิน และให้เงินค่าน้ำมันมา
เด็กชาย เปิดเผยอีกว่า ตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปหาชายดังกล่าวที่สวนลุมพินี แต่ขับขี่หลงทางไปบางกะปิ และติดต่อชายดังกล่าวไม่ได้ จึงตัดสินใจขับขี่รถกลับบ้าน จนมาถึงบ้านตอนเช้า ส่วนสาเหตุที่ไม่สามารถติดต่อชายดังกล่าวได้ เนื่องจากในโลกโซเซียลกระจายข่าวของตนเองไปเป็นวงกว้าง จนทำชายดังกล่าวปิดบล็อกไลน์ไป โดยตนต้องขอกราบอภัยพ่อแม่ด้วย ที่ตัดสินใจกระทำลงไปโดยไม่ได้บอกพ่อแม่ ซึ่งจะไม่ทำให้พ่อแม่เสียใจอีก จะตั้งใจเรียน และเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่ และขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยที่ต้องโกหก