รัก..ไม่เลิก อดีตผัวตามราวี-ง้อคืนดี ชักมีดปักหลังสาวสาหัส
อดีตผัวตามราวีไม่เลิก ถือโอกาสวันสงกรานต์ดักรอง้อคืนดีเมีย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ชักมีดไล่แทงตามหลัง ก่อนหนีเตลิดเข้าป่า ชาวบ้าน-ตำรวจปิดล้อมแต่ไม่เจอตัว
(14 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ได้รับแจ้งมีเหตุชายก่อเหตุทำร้ายร่างกายอดีตภรรยา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส บนถนนทางเข้าบ้านหลังหนึ่ง หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
เมื่อไปถึงทราบว่าผู้บาดเจ็บคือ นางวิไล อายุ 42 ปี เจ้าของบ้าน ถูกมีดแทงที่หลังได้รับบาดเจ็บ ชาวบ้านช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลโพธิ์ทองไปก่อนหน้านี้ ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายประเทือง อดีตสามีของผู้บาดเจ็บ หลังก่อเหตุได้หลบหนีเข้าในป่าหญ้า ชาวบ้านและผู้นำชุมชนได้ช่วยกันปิดล้อมป่าหญ้าดังกล่าวไว้
ต่อมากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร จึงเข้าไปช่วยปิดล้อมกดดันและตรวจค้น แต่ปรากฏว่าไม่เจอตัว เนื่องจากบริเวณป่าดังกล่าวนั้นมีทางเข้าออกหลายทางและค่อนข้างมืด ประกอบกับผู้ก่อเหตุเคยอาศัยอยู่ละแวกนี้ จึงรู้ช่องทางหลบหนีได้เป็นอย่างดี
จากการสอบถาม หลานสาวของนางวิไล กล่าวว่า นางวิไลกับนายประเทือง เคยเป็นสามีภรรยากัน แต่ได้เลิกรากันไปแล้ว ก่อนเกิดเหตุตนกับนางวิไลได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน เพื่อจะไปทำธุระข้างนอก ตนเป็นคนขับและนางวิไลซ้อนท้าย แต่ขี่รถออกจากบ้านไปได้แค่นิดเดียว ก็มาเจอ นายประเทือง ยืนดักรออยู่ โดยสังเกตเห็นว่าในมือมีมีดมาด้วย
จากนั้น นายประเทือง ก็เข้ามากระโดดขวางรถ ตนจึงพยายามเร่งเครื่องและขี่รถหนี จังหวะนั้น นายประเทือง ได้ใช้มีดแทงเข้าข้างหลัง นางวิไล ทำให้ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลลึก ตนจึงได้พา นางวิไล หนีออกมา แต่รถเกิดมาเสียหลักล้ม ตนก็ได้ประคอง นางวิไล วิ่งหนีไปอีก ก่อนที่จะมีชาวบ้านช่วยเหลือ โทรแจ้งตำรวจและพาส่งโรงพยาบาล
นางสาวสาวิตรี ยังกล่าวว่า น้าสาวตนและนายประเทือง เคยคบหากันมากว่า 8 ปี แล้ว ตลอดระเวลาที่อยู่ด้วยกัน นายประเทือง ไม่ออกไปหางานทำ อยู่บ้านเฉยๆ เมื่อเมามาก็จะหาเรื่องทะเลาะและทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งก็ขนเอาของที่อยู่ที่บ้านไป ไม่ว่าน้าจะไปทำงานที่ไหนก็โดนตามราวีอยู่ตลอด
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปค้นเจอรถจักรยานสีเขียวและกระเป่าเสื้อผ้าอยู่ที่ใต้สะพานข้ามคลองชลประทาน ห่างจากป่าหญ้าที่ นายประเทือง หนีเข้าไปไม่ไกลมากนัก ภายในกระเป๋ามีเสื้อผ้า อัลบั้มรูป โทรศัพท์ และข้าวของส่วนตัวอีกจำนวนหนึ่ง ซุกซ่อนอยู่ ในอัลบั้มรูปเป็นรูปของนายประเทืองและนางวิไลที่ถ่ายคู่กัน จึงทำการยึดไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.สุรพจน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าทั้งคู่เคยเป็นสามีภรรยากันต่อมาได้เลิกรากันไป แต่ฝ่ายชายไม่ยอม จึงตามราวีมาตลอด จนกระทั่งวันนี้ก็มาก่อเหตุ จนถึงขั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว คาดว่า นายประเทือง อาจเตรียมการหนีหลังก่อเหตุ เบื้องต้นจะได้ทำการติดตามตัว นายประเทือง มาสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ส่วนอาการของ นางวิไล นั้นแพทย์ทางโรงพยาบาลโพธิ์ทอง ได้ส่งตัวไปรักษาต่อยังโรงพยาบาลอ่างทองแล้ว