กลิ่นเน่าโชย งัดบ้านพบศพครูสาวกินยาตาย ทิ้งข้อความลาพ่อ

กลิ่นเน่าโชย งัดบ้านพบศพครูสาวกินยาตาย ทิ้งข้อความลาพ่อ

กลิ่นเน่าโชย งัดบ้านพบศพครูสาวกินยาตาย ทิ้งข้อความลาพ่อ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(18 เม.ย.) พ.ต.ต.ประภาส บุญสิงห์ พนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร สภ.หล่มสัก ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ภายในบ้านเลขที่ 3 ซอยไพรสนณ์รุ่งเรือง ถนนพิทักษ์ ต.หล่มสัก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ มีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง และมีกลุ่มแมลงวันเกาะบริเวณหน้าต่างชั้น 2 ของบ้านมาหลายวันแล้ว น่าจะมีสิ่งผิดปกติภายในบ้าน

ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูหล่มสัก บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น แต่ประตูหน้าต่างปิดหมดทุกด้าน จึงให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครร่วมกตัญญูใช้อุปกรณ์ตัดถ่างตัดประตูเข้าไป

เมื่อเข้าไปภายในบ้านทุกคนถึงกับผงะเพราะมีกลิ่นเหม็นเน่าที่รุนแรงมาก และมีน้ำเหลืองไหลย้อยลงมาจากชั้น 2 จึงขึ้นไปตรวจสอบพบศพหญิงสวมกางเกงยีนขายาว สวมเสื้อชั้นในเพียงตัวเดียว สภาพศพนอนหงายขึ้นอืดมีน้ำเหลืองไหลเยิ้มและหนอนไชตามลำตัว ในมือกำเม็ดยาไว้จำนวนหนึ่ง ทราบชื่อต่อมาคือ นางสาวพรรณจนา อายุ 32 ปี ในที่เกิดเหตุพบเม็ดยากระจัดกระจายไปทั่ว แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้แต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วัน

จากการสอบสวนพ่อของผู้ตายให้การว่า ลูกสาวอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพัง เป็นครูพี่เลี้ยงสอนเด็กวัยก่อนอนุบาล ของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองหล่มสัก และมีอาการป่วยทางจิต ต้องกินยาคลายเครียดอยู่เป็นประจำ เมื่อหลายปีก่อนก็เคยกินยาฆ่าตัวตาย แต่ญาติเข้ามาเห็นและช่วยชีวิตได้ทัน

ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 13 เม.ย.2559 ผู้ตายได้ส่งข้อความมาให้ตนทางไลน์ประมาณว่า ทนไม่ไหวแล้วขอลาตาย ตนจึงรีบมาดูแต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย กระทั่งมีคนมาบอกว่าลูกสาวได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากโรคเครียดโรคซึมเศร้ากำเริบ จึงคิดสั้นกินยาระงับประสาทจนเกินขนาดเพื่อฆ่าตัวตาย

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทราบว่า ผู้ตายมีอาการทางประสาทต้องกินยาคลายเครียดอยู่เป็นประจำ และคาดว่าก่อนเกิดเหตุน่าจะมีสิ่งใดทำให้ผู้ตายเครียดขึ้นมาอีก จึงกินยาระงับประสาทเพื่อฆ่าตัวตายดังกล่าว ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการตายจึงมอบศพให้นำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook