ตะครุบตัว! มือฆ่าเปลือยสาวที่เขาวัง ยอมสารภาพสิ้น ยืนยันไม่ได้ขืนใจ

รวบแล้วผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่าเปลือยสาวที่เขาวัง เพชรบุรี เตรียมหนีข้ามไปฝั่งสาว สารภาพแค้นถูกสั่งให้มาทำร้าย ยืนยันไม่ได้ข่มขืน

(21 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีคนร้ายฆ่ามัดมือมัดเท้าทิ้งศพไว้ที่บันไดทางขึ้นเขาวัง เมืองเพชรบุรี เมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา พบตั๋วรถไฟสายปากท่อ-นครปฐม ระบุตีตั๋วเมื่อวันที่ 17 เมษายน ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.ธมลภรณ์ อายุ 29 ปี

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพบหลักฐานสำคัญ ซึ่งเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟเพชรบุรีที่บันทึกภาพของผู้เสียชีวิตพร้อมกับชายต้องสงสัยที่สวมเสื้อสีฟ้า กางเกงยีนส์ มีผ้าขาวม้าคาดพุงและสวมรองเท้าผ้าใบสีขาว ที่เดินทางมากับรถไฟและมาลงที่สถานีรถไฟ เวลาประมาณ 21.00 น.

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นภาพของชายต้องสงสัยลากกระเป๋าเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิตที่พบถูกวางทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟ ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รับจ้างไปลงที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง บริเวณหน้าเขาวังเมืองเพชรบุรี ก่อนจะมีผู้พบศพหญิงสาวถูกฆ่าเสียชีวิตดังกล่าว

อีกทั้งจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของคืนวันเดียวกัน พบชายต้องสัยคนดังกล่าว ย้อนกลับมาที่สถานีรถไฟเพียงลำพัง เมื่อเวลาประมาณ 01.20 น. โดยสวมเสื้อบอลสีฟ้า กางเกงวอมสีดำ สวมรองเท้าแตะมาซื้อตั๋วที่สถานีรถไฟ เจ้าหน้าที่สืบสวนทราบว่าชายต้องสงสัยตามภาพกล้องวงจรปิดคือ นายอดิเรก ศรีสัญญา อายุ 39 ปี และศาลจังหวัดเพชรบุรีได้ออกหมายจับที่ 156/2559 ลงวันที่ 21 เมษายน 2559 ข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา 

กระทั่งล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ร.ต.ท.สมาน ศักดิ์ดาเดช รอง สว.(ป) ส.รฟ.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัว นายอดิเรก ผู้ต้องหาได้ที่สถานีรถไฟหนองคาย จ.หนองคาย ขณะเตรียมหลบหนีข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้าน

จากการสอบสวน นายอดิเรก ให้การรับสารภาพ รู้จักกับ น.ส.ธมลภรณ์ มาก่อน ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตได้มาขอเงินตน ตนจึงให้ไป 20 บาท แล้วยังกลับมาขออีก แต่ตนไม่ให้ น.ส.ธมลภรณ์ ไม่พอใจจึงพาพวกมารุมทำร้ายจนตนศีรษะแตก ตนจึงคิดแค้น

ต่อมาในวันที่ 19 เมษายน ตนได้พบกับ น.ส.ธมลภรณ์ ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง พร้อมกับชวนตนไปเที่ยวงานวัดที่วัดพระนอน เมื่อมาถึงสถานีรถไฟเพชรบุรี ได้เรียกรถจักรยานยนต์รับจ้างซ้อนกันไปเที่ยวทีวัด ซึ่งตนได้ดื่มเหล้าจนเมา

จากนั้น น.ส.ธมลภรณ์ ได้ชวนไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบริเวณเปลี่ยว ตนจึงถามว่า จำตนได้หรือไม่ คนที่เคยถูกสั่งให้ยกพวกมาทำร้าย เมื่อได้ยินเช่นนั้น น.ส.ธมลภรณ์ ก็ตกใจและพยายามวิ่งหนี ตนได้กระชากแขนไว้ พร้อมกับชกเข้าที่ใบหน้า 2 ครั้ง จน น.ส.ธมลภรณ์ พลัดตกลงไปชั้นหินด้านล่าง สูงประมาณ 2 เมตร หัวกระแทกพื้น

เมื่อตนตามไปดู พบว่า น.ส.ธมลภรณ์ นอนแน่นิ่งหายใจรวยริน ตนเกรงว่าถ้าผู้เสียชีวิตรอดตายและฟื้นขึ้นมาจะไปแจ้งความ จึงได้นำร่างขึ้นมา แล้วจับถอดกางเกง มัดมือมัดเท้า จากนั้นได้หลบหนี ระหว่างนั้นได้นั่งรถไฟกลับมาที่สถานีรถไฟบางซื่อ เพื่อมาหาเพื่อน พร้อมบอกให้เพื่อนช่วยพาหนี

เพื่อนแนะนำว่าจะพาหนีข้ามไปฝั่ง สปป.ลาว จากนั้นจึงพาตนนั่งรถไฟเดินทางมายังสถานีรถไฟหนองคาย แล้วอาศัยอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง เพื่อรอจะข้ามไปลาว แต่ตนเห็นว่าเพื่อนคนนี้ไม่น่าจะพาข้ามฝั่งไปได้ จึงคิดจะนั่งรถไฟกลับไปหัวลำโพงอีกครั้ง และมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ดังกล่าว

ส่วนในเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าตนข่มขืน น.ส.ธมลภรณ์ นั้น นายอดิเรก ขอยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืน พร้อมจะพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป