ชาวบ้านลุกฮือ! รุมประชาทัณฑ์ ตาเลี้ยงข่มขืนหลาน 7 ขวบ

สามีใหม่ของยาย แอบย่องข่มขืนหลาน 7 ขวบ ญาติบังเอิญจับได้คาหนังคาเขา ยกพวกรุมกระทืบ-อาการโคม่า ยายบอกเคยได้ยิน แต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง

(25 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.ท.จเร พูลแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ว่า ได้เข้าทำการสอบปากคำเหตุชาวบ้านรุมทำร้าย ผู้ต้องสงสัยข่มขืนเด็ก จนได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บ้านหลังหนึ่ง ทราบชื่อคือ นายทศ (นามสมมติ) อายุ 49 ปี เป็นข้าราชการในหน่วยงานแห่งหนึ่ง อยู่ในสภาพสภาพสะบักสะบอม ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจท่าศาลาได้นำตัวส่งห้องไอซียู รพ.ท่าศาลา เนื่องจากบอบช้ำอย่างหนัก

เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นได้ความว่า ข้าราชการรายนี้ถูกชาวบ้านในพื้นที่ราวๆ 50 คน รุมประชาทัณฑ์ ส่วนเจ้าของบ้านเกิดเหตุเป็นหญิงอายุไล่เลี่ยกับผู้บาดเจ็บ ซึ่งผู้บาดเจ็บได้ตกลงปลงใจมาอยู่กินฉันท์สามีภรรยาได้เพียง 2 เดือน

หญิงเจ้าของบ้าน ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่า สาเหตุที่ชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ สืบเนื่องจาก นายทศ ได้พยายามข่มขืนหลานสาวของตนเอง อายุเพียง 7 ขวบ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา ขณะที่ตนไม่อยู่บ้าน และมีคนได้ยินเสียงหลานร้องว่า "ตาอย่าทำ..เจ็บ" ญาติพี่น้องจึงเข้ามาดู จนพบว่า นายทศ กำลังก่อเหตุข่มขืนหลานสาว จึงพากันมารุมประชาทัณฑ์ได้บาดเจ็บดังกล่าว

เจ้าของบ้านรายนี้ ระบุอีกว่า บ้านหลังที่เกิดเหตุ อาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน คือ ตนเอง นายทศ ที่เป็นสามีใหม่ ลูกชายไม่สมประกอบ และหลานสาวที่ถูกข่มขืน โดยกรณีนี้ไม่ได้เกิดเพียงครั้งนี้ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ นายทศ เคยพาหลานไปเข้าเวรที่ทำงานด้วย ก็อาจจะเป็นไปได้ที่จะทำมิดีมิร้ายที่สำนักงานด้วย

ทางด้านหลานสาวก็เคยนำเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนๆ ที่โรงเรียนและมีคนมาเล่าให้ญาติฟังต่อ จนระแคะระคายมาเกือบ 1 เดือนแล้ว กระทั่งช่วงกลางวันที่เกิดเหตุ ญาติบังเอิญมาได้ยินเสียงดังกล่าวขึ้น เมื่อตรวจสอบก็พบว่าเกิดเหตุขึ้นจริงๆ จึงพากันรุมประชาทัณฑ์กันขึ้น

"หลานคนนี้ได้เลี้ยงดูมาตลอดเพราะพ่อแม่แยกทางกัน ส่วนแม่ของเขาไปทำงานที่กรุงเทพฯ ได้ 2 เดือนเศษแล้ว ที่ผ่านมาก็รู้มาบ้างว่า หลานถูกข่มขืนแต่ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง จนญาติไปเจอแบบคาหนังคาเขา สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าเป็นเรื่องจริง และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด" ยายของเด็กหญิงกล่าว

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากญาติของเด็กแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถสอบปากคำเด็กผู้เสียหายได้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่อย่างไร ต้องสอบต่อหน้าผู้ปกครอง พนักงานอัยการ และนักจิตวิทยา เนื่องจากเป็นคดีที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชน และเป็นเรื่องจริงหรือไม่นั้น ไม่สามารถรู้ได้เพราะเด็กยังไม่พูดอะไร รู้แต่เพียงญาติพี่น้องที่ให้การเท่านั้น

ขณะที่ นายทศ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยข่มขืนเด็ก ก็ถูกรุมประชาทัณฑ์ จนต้องรักษาตัวในห้องไอซียู ต้องรอสอบปากคำเพิ่มเติมเช่นกัน เพราะถือว่าเป็นผู้เสียหายที่รุมประชาทัณฑ์ด้วย