ดีเจพล่ากุ้ง แหกตาแรง!! คลิปเสียงแตกใน ที่แท้แค่ขายของ
"ดีเจพล่ากุ้ง" โผล่เฉลยคลิปหลุดเสียงสนทนาสาวปริศนา แค่ทำโปรโมทสินค้าที่รับงานพรีเซ็นเตอร์ พร้อมเอ่ยปากขอโทษสังคมหากเข้าใจผิด ยินดีน้อมรับทุกคำประณาม
หลังจากที่ดีเจหนุ่มชื่อดัง "พล่ากุ้ง วรชาติ" สร้างปรากฏการณ์ชวนอึ้ง!! ด้วยคลิปเสียงสนทนากับสาวปริศนา โดยมีเนื้อหาก้ำกึ่งไปในเรื่องทางเพศ อีกทั้งยังมีบางประโยคคำพูดที่ระบุว่า "แตกใน" จนกลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปทั่วโลกโซเชียลฯ!!
ล่าสุด (25 เม.ย.) ทางด้านของดีเจพล่ากุ้งก็ได้ออกมาเปิดใจถึงคลิปเสียงดังกล่าว โดยเจ้าตัวเผยว่าเป็นการทำมาร์เก็ตติ้งสินค้าที่ตนรับงานพรีเซ็นเตอร์ไว้ ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องเพศอย่างที่หลายคนคิด พร้อมเอ่ยปากขอโทษหากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หลายคนต้องรู้สึกผิดหวังและเข้าใจผิด ซึ่งหลังจากนี้หากจะมีการประณามใดๆ จากสังคม ตนยินดีรับไว้เองทั้งหมด...
"สิ่งที่ทุกคนได้รับรู้ทางโซเชียลฯ และทางคลิปต่างๆ ถ้าเรียกเป็นภาษามาร์เก็ตติ้งก็คือ ไวรัลคลิป นั่นเอง เป็นไวรัลที่ทำขึ้นมาเพื่อให้ทุกคนช็อคกับเหตุการณ์ และรับรู้ถึงสินค้าที่จะขายให้เร็วมากขึ้น"
เรามองว่ามันเกินไปไหม ?
"ตอนแรกที่ผมคุยกับทีมงาน ผมก็ได้ศึกษากับสินค้าชนิดนี้เป็นอย่างดีแล้วนะครับ และสาเหตุที่ผมรับงานนี้ก็เพราะผมชอบในตัวสินค้า มันเป็นสินค้าที่คนไทยคิดเอง และมีประโยชน์ต่อโลกใบนี้ครับ"
แต่ในคลิปเสียงที่ออกมาบทสนทนามันค่อนข้างรุนแรง ?
"ใช่ครับ เพราะในคลิปมันมีคำว่าผม "แตกใน" แต่จริงๆ แล้วคำๆ นี้มันคือกิมมิคของสินค้าตัวนี้ชัดเจนเลย ไม่ได้มีการดัดแปลงให้คำมันลงล็อคใดๆ ทั้งสิ้น มันเป็นคำที่ชัดเจน และก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องใช้คำอื่น"
แต่คำว่าแตกในโดยทั่วไปคนส่วนใหญ่เขาไม่ได้มองว่ามันเกี่ยวกับยางรถ รวมถึงน้ำเสียงของผู้หญิงที่บอกว่าคราวหน้าพี่ก็ทำอีก ?
"เอ่อ...อันนั้นมันเป็นสคริปต์ของทางทีมงานนะครับ แต่ผมเองก็ต้องกล่าวว่า ถ้าหากมีใครที่เดือดร้อนจากการที่ผมทำไวรัลคลิปตัวนี้ ผมก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยนะครับผม (หัวเราะ)"
กลัวไหมว่าพอออกมาเฉลยแล้วจะทำให้สินค้าดูแย่ ?
"อย่างที่บอกครับ สินค้าตัวนี้มันดีกับโลกจริงๆ และคำๆ นี้มันก็เป็นรากของสินค้าตัวนี้เลย คือคำว่าไม่แตกใน ซึ่งก็คือยางไม่แตกในนั่นเอง"
เหมือนตอนนี้คนก็อาจจะมองได้ว่าเราโกหกประชาชน ?
"เอ่อ...จริงๆ แล้วตั้งแต่คลิปนี้เผยแพร่ออกไป มันก็มีระยะเวลาประมาณ 5 วัน อีกอย่างตอนแรกผมไม่คิดว่ามันจะมีกระแสด้วย เพราะผมไม่ใช่ดาราดัง แต่เผอิญว่าโซเชียลยุคนี้มันเร็ว ก็เลยทำให้มีคนเข้ามาถามผมเยอะ เกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะทุกคนเป็นห่วง
แต่พอผมได้เล่าเจตนาต่างๆ เล่าคอนเซ็ปต์ต่างๆ ให้เขาฟัง เขาก็โอเคนะครับ ดังนั้นผมคิดว่า 5 วันกับการเข้าใจผิด และมันมีตอนจบที่ออกมาชัดเจน ก็ไม่น่าจะมีคนเดือดร้อนอะไรมากมายจากไวรัลตัวนี้ครับ"
เอาจริงๆ ตัวเราเองกลัวโดนผลกระทบไหม ?
"ที่ผมอ่านในคอมเม้นท์ส่วนใหญ่เขาจะเข้าข้างผมนะครับ บางคนก็บอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องที่คุยกันสองคน ผู้หญิงปล่อยทำไม ประจานตัวเองหรือเปล่า บางคนก็บอกว่าเป็นไวรัลสินค้า ซึ่งส่วนมากเดาเป็นถุงยางอนามัย ดังนั้นพอวันนี้มีการเฉลยปุ๊ป ทุกคนก็น่าจะเข้าใจไม่มีปัญหาอะไรครับ"
กลายเป็นว่าเราใช้สื่อเป็นเครื่องมือ ?
"เอ่อ...ผมไม่แน่ใจนะครับว่าใช้สื่อเป็นเครื่องมือหรือเปล่า แต่ผมขอใช้คำว่าเดี๋ยวนี้คนที่ดู คนที่เสพสื่อ เขาก็เชื่ออะไรยากขึ้นนะครับ"
แสดงว่าสิ่งที่เราตัดสินใจทำไม่ได้เกี่ยวกับเงิน แต่เกี่ยวกับคอนเซ็ปต์ของสินค้าที่ตรงใจ ?
"ใช่ครับ ตอนแรกที่ฟังคอนเซ็ปต์ผมก็คิดว่าแรง แต่พอได้ลงรายละเอียดมันจริงๆ ผมกลับรู้สึกชอบสินค้าตัวนี้ ส่วนเรื่องค่าตัวถามว่าได้เยอะไหม เพราะผมเองก็ต้องเสี่ยงกับการถูกวิพากษ์วิจารณ์ เอ่อ...อันนี้ขอไม่ระบุดีกว่าครับ หน้าตาอย่างผมไม่ได้อะไรเยอะแยะมากมาย"
เรียกว่าได้คุ้มเสียได้หรือเปล่า ?
"ถือว่าเป็นการทำงานหาเงินในอีกแนวหนึ่งละกันครับ"
เตรียมใจกับกระแสหลังจากวันนี้แล้วหรือยัง ?
"พร้อมยอมรับทุกข้อกล่าวหาครับ ใครจะว่าผมนู่นนั่นนี่ ถ้าคุณได้ลองศึกษาสินค้าจริงๆ คุณก็จะเข้าใจมันครับ"
ผู้หญิงในคลิปเสียงคือใคร ?
"เป็นเสียงของเอเจนซี่ท่านหนึ่งครับ ที่คิดว่าเนียนที่สุดมาคุยกับผม และทีมงานก็ชอบเลยเลือกคนนี้"
กลัวไหมว่าถ้าหลังจากนี้มีอะไรอีกคนจะไม่เชื่อเรา ?
"ถ้ามีไวรัลแบบนี้อีกผมไม่รับแล้วนะครับ ผมจะทำตัวนี้เป็นตัวสุดท้าย แต่ถ้าเกิดมีสินค้าที่ผมรู้สึกว่าดีและไม่ใช่คอนเซ็ปต์แบบนี้ผมก็จะรับครับ"
แสดงว่าเราเองก็รู้สึกว่ามันขัดกับศีลธรรมเหมือนกัน ?
"ผมคิดว่ามันช็อคคนดูมากกว่า เพราะพอมีการเฉลยออกมามันก็ไม่ได้ขัดอะไร อีกอย่างสำหรับตัวผมเองตอนที่ผมนั่งอยู่หลังเวที ผมก็เกรงใจพี่ๆ สื่อมวลชนทุกท่านนะครับ เพราะผมเองก็ไม่ชอบบรรยกาศที่ทุกคนอยากรู้คำตอบ บางคนเข้าใจผมผิด นู่นนั่นนี่ แต่ก็ครับ...เข้าใจผิดได้ เพราะว่าทางสื่อที่มีการนำเสนอออกไปมันก็มีหลายแง่มุม"
ตอนปล่อยคลิปออกมาสงสารสังคมไหม ?
"เอ่อ...ผมรู้สึกว่าสังคมออนไลน์สมัยนี้มีเรื่องหนักกว่านี้เยอะครับ เยอะจริงๆ แต่ถามว่าผมหนักใจไหม ผมไม่หนักใจครับ เพราะผมมีเฉลยๆ มีขั้นมีตอน เป็นงานเป็นการ ไม่ใช่ทำแล้วหาย ทำแล้วหนี เราทำและมีตัวตนยืนยันตรงนี้ครับ"
ถ้ายังมีคนประณามเราจะโอเคไหม ?
"ผมยอมรับและกราบขอโทษคุณจริงๆ ครับ ถือว่าความคิดเราไม่ตรงกัน งานศิลปะชิ้นหนึ่ง คนดูสิบคน ตีความไม่เหมือนกัน ดังนั้นสิ่งนี้ผมถือว่าเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่งละกันครับ"
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ