กระบะตกเหวแม่แจ่ม 3 ศพ แม่ใช้ร่างปกป้อง ตัวตาย-ลูกรอด

รถกระบะเสียหลักตกเหวที่แม่แจ่ม กู้ภัยช่วยทุลักทุเล เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บอีก 5 คน พบเด็กหญิงรอดปาฏิหาริย์ แม่ใช้ตัวป้องร่างเอาไว้ ทำให้ตัวเองเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

(26 เม.ย.) เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะเสียหลักตกเขา บริเวณถนนสายอินทนนท์-แม่แจ่ม ช่วงทางโค้งบ้านสันพัฒนา จึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยจอมทองและกู้ภัยเชียงใหม่ เข้าตรวจสอบและช่วยเหลือ มีรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ่น เมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. วานนี้ (25 เม.ย.) เจ้าหน้าที่กู้ภัยแม่แจ่ม และผู้ภัยสมาคมกุศลสงเคราะห์เชียงใหม่ เจ้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากอุบัติเหตุรถกระบะพลิกคว่ำตกเหว บริเวณช่วงกิโลเมตรที่ 8-9 ถนนสายอินทนนท์-แม่แจ่ม

จุดเกิดเหตุพบรถกระบะโตโยต้าไทเกอร์ สีบรอนซ์ทอง พลิกคว่ำตกอยู่ข้างทาง ลึกลงไปกว่า 15 เมตร ทางเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันนำคนเจ็บขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เนื่องจากที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นเหวชัน จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้โดยสารและคนขับเดินทางมาด้วยกันทั้งหมด 8 คน ได้รับบาดเจ็บ 5 คน ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันนำส่งรักษาต่อยังโรงพยาบาล

นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุพัฒน์ อายุ 60 ปี นางจารี อายุ 44 ปี ทั้งคู่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนอีก 1 คน คือ นายบุณทิน อายุ 52 ปี ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว

หนึ่งในผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ มีเด็กหญิงอายุ 3 ปี รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แม้ว่าผู้เป็นแม่ นางจารี จะเสียชีวิตจากเหตุนี้ เนื่องจากใช้ร่างตัวเองปกป้องลูกสาวเอาไว้ ทำให้ลูกสาวปลอดภัย แต่ตัวเองต้องจบชีวิตลง

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทั้งหมดมีอาชีพเป็นนักดนตรี ก่อนเกิดเหตุได้พากันไปเล่นดนตรีที่ อ.แม่วาง และกำลังเดินทางกลับที่พัก บริเวณบ้านนากลาง ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ นายกิตติพร อายุ 22 ปี เป็นผู้ขับขี่ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นโค้งหักศอกและมึความลาดชันสูง ประกอบกับจุดดังกล่าวค่อนข้างมืด ทำให้ผู้ขับขี่มองไม่เห็นทาง เป็นเหตุให้รถแหกโค้งตกลงข้างทาง จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตดังกล่าว

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานและสอบปากคำพยานเอาไว้ แต่ตัวผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บและเจ้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จึงยังไม่ได้มีการสอบปากคำ ต้องรอจนกว่าจะอาการจะดีขึ้น จะเชิญตัวมาสอบถามถึงสาเหตุที่แน่ชัดและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขอบคุณภาพจาก สมาคมนพรัตน์พรกุศลเชียงใหม่