ตั้งข้อหาแล้ว ตร.วังกะพี้ ยิงคนตาย หลังแห่โลง-หวั่นพ่อตายฟรี

ผกก.สภ.อุตรดิตถ์ ยืนยันตั้งข้อหา นายตำรวจวังกะพี้ เจตนายิงคนอื่นตาย หลังถกเถียงปมที่ดิน ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย หลังลูกหลานแห่โลงศพประท้วง เห็นเรื่องเงียบ-กลัวพ่อต้องตายฟรีๆ

จากกรณีเมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) น.ส.ปวีณา อายุ 39 ปี ชาวบ้านคุ้งวารี จ.อุตรดิตถ์ พร้อมพี่น้องชายหญิงอีก 4 คน นำโลงศพ พร้อมรูปภาพของ นายเลื่อน อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นบิดา ถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม. เข้าบริเวณราวนมด้านขวา 1 นัด เป็นเหตุทำให้เสียชีวิต บริเวณกลางทุ่งนา บึงทุ่งกะโล่ เมืองอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา

โดยมี ร.ต.ต.ชาตรี อายะนันท์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังกะพี้ เป็นคู่กรณี ซึ่งเคยเป็นข้อโต้แย้งในการแย่งผืนที่ดินทำนาปลูกข้าว จำนวนกว่า 5 ไร่ เป็นที่ดินสาธารณะในพื้นที่ดังกล่าวกับผู้ตายมาก่อน และอยู่ในที่เกิดเหตุตามลำพังกัน 2 คน ญาติและลูกๆ เชื่อว่า คนก่อเหตุยิง นายเลื่อน คือเจ้าหน้าที่ตำรวจนายนี้

ลูกๆ ของผู้เสียชีวิต พร้อมญาติได้ร่วมกันแห่โลงศพออกจากบ้านคุ้งวารี เพื่อมาร้องเรียนกับศูนย์ดำรงธรรม ที่ศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์ เนื่องจากหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคดีนี้และส่งผลให้ผู้เป็นพ่อต้องตายฟรี ซึ่งเวลาต่อมา นายสุมิตร เกิดกล่ำ ปลัดจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ ได้เดินทางรับเรื่องร้องเรียน

พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงเบื้องตนให้กับญาติและบรรดาลูกของผู้เสียชีวิตได้รับทราบถึงที่มาที่ไปเบื้องต้นว่า หลังเกิดเหตุทางพนักงานสอบสวนพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐาน อาทิ อาวุธปืนขนาด 9 มม. กระสุนปืนที่ถูกยิงไปแล้ว เขม่าปืนจากศพผู้ตายและจากกระบอกปืนที่ใช้ยิง

ผลที่สรุปออกมาพบว่า เป็นกระสุนปืนและอาวุธปืนในกระบอกเดียวกัน ผู้เสียชีวิตถูกยิงในระยะเผาขน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับ ร.ต.ต.ชาตรี ในข้อหาฆ่าผู้ตายตายโดยเจตนา ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าอาวุธปืนที่ใช้ยิงเป็นของตนเองและยิงผู้ตายจริง

ด้าน พ.ต.อ.ดิษยเดช กล่าวว่า ร.ต.ต.ชาตรี เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด สภ.วังกะพี้ ทำหน้าที่หน่วยบริการประชาชนในพื้นที่ตำบลหาดกรวด เขตรับผิดชอบของ สภ.วังกะพี้ วันที่เกิดเหตุได้ขี่รถจักรยายนต์ พร้อมชุดเครื่องแบบ มาดูพื้นที่นาปลูกข้าวของตนเองใกล้กับจุดเกิดเหตุ และรับแจ้งว่ามีชาวบ้านช็อตปลาบริเวณนั้น จึงวิทยุแจ้ง 191 ขอกำลังเสริม

ขณะเดียวกันผู้เสียชีวิตก็ได้โทรศัพท์แจ้งให้อดีตผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่มาที่เกิดเหตุ เมื่ออดีตผู้ใหญ่บ้านมาถึงพบทั้งคู่กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันกลางทุ่งนา จึงได้เข้าไปห้ามปราม พร้อมนำอาวุธปืนออกมา ทราบภายหลังว่า นายเลื่อน ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกได้รับบาดเจ็บ จึงนำส่งโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

พ.ต.อ.ดิษยเดช ได้ชี้แจงให้กับญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า จะให้ความเป็นธรรมอย่างดีที่สุด ตามพยานหลักฐานและพยานบุคคลในที่เกิดเหตุที่มีอยู่ ไม่ต้องหวั่นตำรวจจะให้การช่วยเหลือกันเชื่อว่าเอาผิดผู้ลงมือยิงได้อย่างแน่นอน ตอนนี้ได้ตั้งข้อหาไว้แล้วคือ ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ส่วนเรื่องอื่นๆ ต้องไปสู้กันในชั้นศาลต่อไป