ผลิต เตาประหยัดฯ ช่วยชุมชน ลดค่าใช้จ่าย-ให้ความร้อนนาน
พลังงานเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับมนุษย์ทุกเพศทุกวัย มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และในขณะนี้พลังงานต่างๆ รวมถึงเชื้อเพลิงก็กำลังลดน้อยลงอย่างมากและมีโอกาสที่จะหมด
จะเหลือเพียงแต่พลังงานที่ต้องใช้ทุนทรัพย์ในการจัดซื้อมาไว้ใช้ แต่ประชาชนที่มีฐานะยากจน หรือชาวบ้านทั่วไปจะหาซื้อมาใช้ได้หรือไม่นั้นยังไม่สามารถระบุได้
กลุ่มชาวบ้านร่องปลายนา ต.บัวสลี อ.แม่ลาว จ.เชียงราย โดยการนำของ นายศรีวง วงค์ษา วัย 42 ปี จึงรวมกลุ่มกันเตรียมพร้อมหาทางออกโดยคิดค้น "เตาประหยัดพลังงาน" ที่ดัดแปลงมาจากเตาไฟซึ่งทุกครอบครัวมีไว้ใช้ผลิตอาหาร โดยเตาดังกล่าวมีความคงทนแข็งแกร่ง ประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงได้มากกว่าเตาไฟธรรมดาทั่วไปหลายเท่าตัว
"เตาไฟเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับชาวบ้าน และขณะนี้พบว่าเศษไม้และถ่านที่เป็นเชื้อเพลิงเริ่มหายากและมีราคาแพงขึ้น การซื้อขายก็เริ่มฝืดเพราะต้นทุนสูง เราจึงได้รวมกลุ่มกันคิดค้น ผลิตเตาไฟแบบใหม่ที่ทำมาจากดินเหนียว ปูนซีเมนต์และทราย ที่เป็นองค์ประกอบหลัก เนื่องจากมีความแข็งแกร่งและทนไฟ เก็บความร้อนได้ดี โดยมีการทดลองผลิตเตาไฟหลายรูปแบบมาเป็นเวลากว่า 3 ปี จึงได้เตาไฟที่มีรูปร่างคล้ายเรือ ที่ปิดผนึกมิดชิดทุกด้าน แต่มีปล่องควันไฟ"
นายศรีวง กล่าวว่า เตาประหยัดพลังงานเป็นความคิดของชาวบ้าน 43 คนที่ร่วมกันตั้งกลุ่มใช้ชื่อว่า กลุ่มพลังงาน เพื่อต้องการลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าแก๊สหุงต้มที่มีราคาแพงอย่างต่อเนื่อง จึงได้นำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการประหยัดพลังงาน คิดค้นวิธีการต่างๆ ด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน ใช้วัสดุในท้องถิ่น และทุนทรัพย์ที่ลงขันกันคนละ 500 บาท เฉลี่ยแล้วกว่า 21,500 บาท ในการลองผิดลองถูก
เมื่อได้เตาไฟที่มีรูปร่างคล้ายเรือ ถูกผลิตขึ้น และเมื่อผลการทดลองเปรียบเทียบกับเตาไฟธรรมดา เตาที่ผลิตช่วยประหยัดพลังงานเชื้อเพลิง อาทิ เศษไม้ วัสดุ เก็บความร้อนได้นานกว่าเตาไฟธรรมดาถึง 2 เท่า จากเดิมหากเป็นเตาไฟธรรมดา การใช้เชื้อเพลิงที่เป็นถ่านจะสามารถอยู่ได้ครึ่งชั่วโมงเชื้อเพลิงก็จะหมดไป แต่หากเป็นเตาไฟที่คิดค้นขึ้นความร้อนจะอยู่ได้นานถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง พร้อมเปลวไฟก็ให้ประกายที่แรงและร้อนกว่าปกติ
ส่วนขั้นตอนการทำนั้น เบื้องต้นก็ได้นำดินเหนียวในพื้นที่มาหมักทิ้งไว้ 7 วัน เพื่อเตรียมความพร้อมของดิน ก่อนนำดินดังกล่าวไปโม่ผสมกับปูนซีเมนต์ทรายและวัสดุกันความร้อน พร้อมกับทำการปั้นขึ้นรูปเตา ตามแบบและขนาดที่กำหนดไว้ และนำไปเก็บไว้ในอุณภูมิที่เหมาะสม ประมาณ 3 วัน ก็จะได้เตาประหยัดพลังงานที่เปลวไฟที่รุนแรง และเก็บความร้อนได้นานประหยัดเชื้อเพลิงหลายเท่าตัว
อย่างไรก็ตาม ความเหนื่อยล้าของคนในกลุ่มไม่ได้สูญหายไป นอกจากได้เตาประหยัดพลังงานใช้ในครัวเรือน ช่วยประหยัดค่าเชื้อเพลิงลงได้มากแล้ว ยังมีประชาชนสนใจขอซื้อจำนวนมาก สนนราคาตั้งแต่ 350-800 บาทต่อเตา แล้วแต่ขนาด ส่งผลให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกทางนอกเหนือจากการทำนา หรือปลูกผักขาย ผู้ที่สนใจเตาประหยัดรุ่นนี้ อยากช่วยชาวบ้านมีรายได้เพิ่ม สอบถามได้ที่กลุ่มโทร.0-5367-3725
จากคุณสมบัติเด่นของเตาที่เกิดจากภูมิปัญญา ทำให้ชาวบ้านสามารถประหยัดพลังงานเชื้อเพลิงไปได้จำนวนมาก ถึงแม้ความสำเร็จจะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในสังคม แต่หลายคนก็รู้สึกภูมิใจที่ได้ช่วยประหยัดพลังงานไว้ให้ลูกหลาน
เรื่องโดย : สุระกิจ รัตนศรี