สงสัย เสี่ยอ. ขาใหญ่ห้วยขวาง เอี่ยวคดีอุ้มฆ่าเสี่ยเมืองกรุง

สงสัย เสี่ยอ. ขาใหญ่ห้วยขวาง เอี่ยวคดีอุ้มฆ่าเสี่ยเมืองกรุง

สงสัย เสี่ยอ. ขาใหญ่ห้วยขวาง เอี่ยวคดีอุ้มฆ่าเสี่ยเมืองกรุง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรณีคดี นายภาสพล รัตนตยาธิคุณ หรือ เสี่ยตุ้ม นักธุรกิจอดีตนักเรียนนอก วัย 48 ปี ถูกยิงเสียชีวิตริมถนนสายสมเด็จ-ผาเสวย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ล่าสุด พล.ต.ต.อภิชิต เทียนเพิ่มพูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ยอมรับว่า คดีนี้มีความซับซ้อน โดยเฉพาะเรื่องการแกะรอยและการตั้งประเด็น เป็นที่ชัดเจนว่า เกิดจากปัญหาเรื่องเงินจากการขายที่ดิน รองลงมาเป็นเรื่องชู้สาว จึงตั้งทีมสอบสวนเร่งคลี่คลายคดี

ทั้งนี้ พล.ต.ต.อภิชิต กล่าวอีกว่า ผลการสืบสวนทีมอุ้มฆ่า ยังไม่พบตำรวจ หรือ ทหาร เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่กำลังเร่งสืบสวนไปยังกลุ่มมือปืนรับจ้างตามซุ้มต่างๆ ในกรุงเทพและเขตปริมณฑล เพราะผลการสืบสวนเชื่อว่ามีนกต่อ ที่ใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นผู้หญิง อีกคนที่มีความสนิทสนมกับผู้เสียชีวิต ดังนั้นในเรื่องชู้สาวจึงยังไม่ตัดประเด็นนี้ทิ้งไป

ล่าสุด (10 พ.ค.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า คดีนี้มีความซับซ้อนและเกี่ยวพันกับบุคคลหลายกลุ่มและเท่าที่รับฟังการรายงานในทุกประเด็นยังสามารถเป็นคำถามได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชู้สาว เรื่องครอบครัว แต่ในขณะนี้ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ให้น้ำหนักไปที่ปัญหาซื้อขายที่ดิน ประเด็นการแบ่งปันเงินค่านายหน้า ในเรื่องครอบครัวนั้นในวันเกิดเหตุซึ่งข่าวออกมาว่ามีคนเห็นว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์มาอุ้มตัวไปนั้น ไม่สามารถตอบได้ เพราะตำรวจยังไม่ได้สอบปากคำญาติทั้งหมด รวมถึง นายวิรัช รัตนตยาธิคุณ พ่อของผู้ตายที่ทราบว่าป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล

"ผมยอมรับว่าคดีนี้มีความคืบหน้า แต่ไม่สามารถพูดอะไรได้มากเพราะต้องให้เวลา ชุดสืบสวนทำงาน ซึ่งในบางส่วนก็ยังอยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อติดตามตัวบุคคลเข้าให้ปากคำ ส่วนกล้องวงจรปิด หรือแม้แต่เส้นทางต่างๆ ก็คงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงาน ทั้งนี้กลุ่มที่ก่อเหตุจะเป็นกลุ่มใกล้ชิดคนตายที่ร่วมกันลงมือมีไม่ต่ำกว่า 5 คน ซึ่งเป็นเรื่องขัดผลประโยชน์ และคาดว่าการออกหมายจับโดยตำรวจกาฬสินธุ์ จะสามารถออกได้ภายหลังมีความชัดเจนถึงผู้เกี่ยวข้องของคดีนี้"พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าว

ด้านแหล่งข่าววงใน กล่าวว่า คดีนี้ปมฆาตกรรมต้องตัดประเด็นชู้สาวออก และทิ้งไว้เพียงเรื่องเงินซึ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์จากการซื้อขายที่ดิน ตลอด 10 วันที่ผ่านมา เพราะปรากฏข้อเท็จจริงว่า นอกจากผู้ตายจะทำธุรกิจเสื้อผ้า โรงพิมพ์ ก็ยังมีอาชีพเป็นนายหน้ารับซื้อขายที่ดินเช่นกัน ซึ่งในแต่ละธุรกิจจะไม่มีภรรยาเข้าไปมีส่วนร่วม โดยเฉพาะ อาชีพนายหน้าค้าที่ดิน ซึ่ง ผู้ตาย จะทำธุรกิจร่วมกับเพื่อนสนิทซึ่งในวงการที่ดินจะเรียกว่า "เสี่ย อ." นายหน้าขาใหญ่ย่านห้วยขวาง โดยคู่ธุรกิจคู่นี้จะเดินทางไปทั่วประเทศ มีการซื้อขายที่ดินมูลค่าหลายร้อยล้านบาทในแต่ละผืน แต่ด้วยนิสัยของผู้ตาย เป็นหนุ่มนักรักทำให้การเดินทางซื้อขายที่ดินจะมีผู้หญิงมาติดพันจำนวนมาก

กรณีปมฆาตกรรม นางนกต่อ จึงถือเป็นกุญแจดอกสำคัญ ทราบว่า ขณะนี้ได้ติดต่อเพื่อขอให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว การประเมินเหตุการณ์ฆาตกรรมจึงอาจจะเกิดขึ้นสองกรณีคือ เกิดจากนางนกต่อ ที่รู้ว่าผู้ตายเพิ่งได้รับเงินค่านายหน้า จึงได้วางแผนลวงออกจากบ้านแล้วนำมาฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ หรือกรณีนกต่ออาจจะเป็นคนของ "เสี่ย อ." ที่ถูกใช้มาเพื่อหักหลังผู้ตายเพื่อไม่ต้องจ่ายเงินค่านายหน้า จึงให้นกต่อลวงออกไปเที่ยวแล้วนำมาฆาตกรรม ซึ่งขณะนี้ผลทางคดีรอเพียงคำให้การของ นางนกต่อ และ "เสี่ย อ." ซึ่งตำรวจกำลังติดตามตัวอยู่ในขณะนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook