แก๊งหญิงรุมตบสาว 18 ไม่พอส่งคลิปเยาะเย้ย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (11 พ.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น. สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี น.ส.สุรัตน์ อายุ 40 ปี อาชีพค้าขาย ได้พาบุตรสาวคือ น.ส.ชลิตา อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เข้าแจ้งความ

กรณี น.ส.ชลิตา ถูกกลุ่มเด็กวัยรุ่นทำร้ายร่างกายที่หน้าวัดเล่งเนี่ยยี่ ซ.เทศบาล 9 หมู่ที่ 4 ต.โสนลอย อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จนได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 6 พ.ค.59 เวลาประมาณ 23.00 น. โดยมีภาพจากคลิปวีดีโอที่คู่อริถ่ายไว้เป็นหลักฐาน

ภาพจากคลิปเป็นภาพที่กลุ่มวัยรุ่นจำนวนหนึ่งกำลังยืนมุงดูหญิงสาวคนหนึ่งสวมเสื้อยืดสีเทา กางเกงขาสั้นสีขาว ทำร้ายผู้เสียหายคนหนึ่ง ทั้งกระชากผม ใช้เท้าเตะ จากนั้นได้เหวี่ยงผมผู้เสียหายไปมา

โดยมีหญิงผมสวมเสื้อสีดำ กางเกงยีนส์ขาสั้น ถืออาวุธมีดคอยคุมเชิงอยู่อีกมุมหนึ่งเพื่อไม่ให้กลุ่มเพื่อนของผู้เสียหายเข้าไปช่วย ต่อมากลุ่มผู้ก่อเหตุเห็นว่ามีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจขับรถ จยย.ผ่านมาจึงได้หยุดทำร้ายผู้เสียหายและแยกย้ายหลบหนีไป

น.ส.ชลิตา เปิดเผยว่า ตนได้ไปเดินเล่นที่งานกาชาดกับเพื่อนประมาณ 10 คน ตอนเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้มานั่งพักและเล่นโทรศัพท์คุยกับเพื่อนที่บริเวณหน้าวัด จากนั้นมีวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง มากันประมาณ 20 คน เดินเข้ามาหาตน หนึ่งในนั้นเดินปรี่เข้ามาเตะที่ใบหน้าของตน แล้วจับผมกระชากและกดหัวตนกับพื้นถนน

ช่วงเวลาดังกล่าวมีคนเดินผ่านไปมาค่อนข้างที่จะเยอะ ซึ่งหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ชักอาวุธมีดที่เหน็บไว้บริเวณเอวด้านขวา ออกมาข่มขู่ไม่ให้ใครเข้ามายุ่งเด็ดขาด ขณะนั้นตนได้ร้องขอไม่ให้ผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายตน แต่ผู้ก่อเหตุไม่ฟัง ยังคงกระชากผมของตนไม่หยุด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงจึงวิ่งหนีหลบไป

หลังจากเกิดเหตุตนมาทราบทีหลังว่ากลุ่มที่เข้ามาทำร้ายตน เป็นคู่อริกับเพื่อนในกลุ่มที่มากับตน สาเหตุที่มาแจ้งความช้าเพราะไม่กล้าบอกให้ที่บ้านรู้และคิดว่าไม่มีหลักฐานเอาผิดคู่กรณีได้

หลังจากนั้นผ่านไป 4 วัน ผู้ก่อเหตุได้ส่งคลิปวีดีโอตอนที่ทำร้ายร่างกายตนเข้ามาในไลน์กลุ่มเพื่อนของตนเพื่อมาเยาะเย้ย ตนจึงตัดสินใจบอกผู้ปกครองและเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ซึ่งตนไม่เคยรู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ดีๆ ก็ถูกทำร้ายได้ ตอนนั้นตนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณโหนกแก้มด้านขวา ปากด้านในฉีกมีเลือดออก ยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบคลิปดังกล่าว และรู้ตัวคนก่อเหตุแล้ว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กำลังอยู่ในระหว่างติดตามตัวผู้ที่ก่อเหตุและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป