จับลูกสมุน ฆ่าเผายางเจ้าแม่เงินกู้ สารภาพแค่อยากยืมเงิน

จับลูกสมุน ฆ่าเผายางเจ้าแม่เงินกู้ สารภาพแค่อยากยืมเงิน

จับลูกสมุน ฆ่าเผายางเจ้าแม่เงินกู้ สารภาพแค่อยากยืมเงิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตำรวจอุดรฯ แถลงจับตัวลูกสมุนอีกหนึ่ง ร่วมมือกับอดีตตำรวจ ฆ่าชิงทรัพย์เจ้าแม่เงินกู้ ก่อนเผานั่งยางที่สุสานป่ากุดจับ สารภาพหมดเปลือก

จากกรณีฆ่าเผานั่งยาง นางบังอร ทองอ่อน อายุ 52 ปี เจ้าแม่เงินกู้ ที่สุสานเผานั่งยาง ป่าสงวนแห่งชาติป่ากุดจับ บ้านคำบอนเวียงชัย ต.หนองแวง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2557 ญาติได้ร้องสื่อมวลชนว่าคดีไม่คืบ คนร้ายยังลอยนวล และยังพบร่องรอยเผานั่งยางอีก 23 จุด ตำรวจต้องรือฟื้นคดีใหม่ และพยานสำคัญ

ความคืบหน้าในกรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 16 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ได้แถลงข่าวจับกุม นายบุญหนา ทองงาม อายุ 57 ปี และ ด.ต.ปราโมทย์ บุพศรี 63 ปี อดีต ผบ.หมู่ สส.สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ซึ่งเคยต้องโทษจำคุกคดียิง น.ส.วารุณี หัวหน้าส่วนการคลัง อบต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เสียชีวิต

ตามหมายจับที่ศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 192 และ193 /2559 ข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพื่อตระเตรียมการ หรือเพื่อสะดวกในการที่จะทำความผิดอย่างอื่น ร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป จนเป็นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพ เพื่อปิดปังการตายหรือเหตุแห่งการตาย" หมายจับศาล จังหวัดอุดรธานี ที่ 192 และ193 /2559

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ต.ท.องอาจ ปลัดขวา สว.สอบสวน สภ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ออกไปสอบสวนคดี พบศพเผานั่งยาง ในป่าสงวนแห่งชาติป่ากุดจับ หมู่ 3 ต.คำบอนเวียงชัย ต.หนองแวง อ.บ้านผือ พบศพ นางบังอร ทองอ่อน ซึ่งญาติได้ชี้ยืนยันว่าเป็น นางบังอร ซึ่งออกไปรดน้ำผักที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน และหายตัวไป

จากการตรวจดีเอ็นเอเทียบกับลูกชาย ยืนยันว่าเป็นศพ นางบังอร ตำรวจได้ตั้งประเด็นฆาตกรรม ชู้สาว ฆ่าล้างหนี้และ ชิงทรัพย์ แต่ให้น้ำหนักไปที่ชิงทรัพย์ เพราะมีทรัพย์สินอื่นมีเงินสด 6 หมื่น สร้อยคอทองคำ 2 บาท เลสแขน 2 บาท แหวน 3 วง หายไป จากการสืบสวนสอบสวนยังขาดประจักษ์พยานสำคัญ จึงทำให้ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้

พล.ต.อ.เฉลิมเกีรยติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า หลังญาตินางบังอร ร้องสื่อมวลชนว่าคดีไม่คืบ คนร้ายยังลอยนวล ตำรวจจึงรื้อฟื้นคดี ออกสืบสวนหาประจักษ์พยานใหม่ โดยนำ นายบุญหนา มาสอบสวน และจากการสอบสวนนายบุญหนา ได้รับสารภาพว่า วันเกิดเหตุ ด.ต.ปราโมทย์ ขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มารับที่บ้าน และชวนไปฆ่าชิงทรัพย์ นางบังอร ที่กระท่อมนา เพราะ นางบังอร ใส่สร้อยทองและสวมแหวน พกเงินสดติดตัวตลอด

เมื่อไปถึงพบ นางบังอร กำลังรดน้ำผักและต้นไม้ ด.ต.ปราโมทย์ ได้จับนางบังอรหักคอ ส่วนตนเป็นคนดูต้นทาง เสร็จแล้วให้ นายบุญหนา อุ้มร่างผู้เสียชีวิตขึ้นรถกระบะของ ด.ต.ปราโมทย์ นำไปเผาทำลายที่สุสานเผานั่งยาง โดยใช้ยางรถยนต์ 2 เส้น แต่ศพไหม้ไม่หมด

ด.ต.ปราโมทย์ จึงได้นำยางรถยนต์มาอีก 1 เส้น รวมเป็น 3 เส้น จนกระทั่งสว่าง ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี ด.ต.ปราโมทย์ ให้ส่วนแบ่งตนเป็นเงินสด 14,000 บาท เงินสดและทองรูปพรรณที่เหลือเป็นของ ด.ต.ปราโมทย์ ทั้งหมด

ส่วนสาเหตุการฆ่าชิงทรัพย์ น่าจะมาจาก ด.ต.ปราโมทย์ ถูกให้ออกจากราชการ เพราะเป็นผู้ตองหา คดียิง น.ส.วารุณี หัวหน้าส่วนการคลัง อบต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี เสียชีวิต ไม่มีเงินใช้จ่าย จึงก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ นางบังอร

ขณะที่สาเหตุที่ตนไม่กล้าให้การและรับสารภาพในครั้งแรก เนื่องจาก ตนกลัว ด.ต.ปราโมทย์ มาก อีกทั้งยังถูกขู่เอาไว้ว่า หากถูกตำรวจจับ ก็จะถูกจับทั้งคู่ ตนจึงไม่กล้าบอกใคร กระทั่ง ด.ต.ปราโมทย์ ถูกจับคิดคุกในคดีอื่น จึงกล้าสารภาพ หลังจาก นายบุญหนา ให้การรับสารภาพ ได้ควบคุมตัวไปชี้จุดเกิดเหตุดังกล่าว

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.บอกว่าในส่วนคดีเผานั่งยางที่พบทั้งหมด 23 จุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรอผลดีเอ็นเอหรือคดีใดมีหลักฐานเพิ่มก็สามารถดำเนินการอะไรได้ก็จะดำเนินการ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook