ชาวบ้านโต้นักอนุรักษ์ดุเดือด ซัดควรห่วงคนมากกว่าต้นไม้
(26 พ.ค.) ที่ห้องประชุมโรงเรียนไฮเทค เทคโนโลยีเพชรบูรณ์ ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ นายบัณฑิต เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เป็นประธานในการประชุมการมีส่วนร่วมและรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในโครงการก่อสร้างบูรณะทางหลวงหมายเลข 12 สายหล่มสัก-น้ำหนาว ตอน 1 ช่วงระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 123+195 ถึงหลักกิโลเมตรที่ 133+300 ระยะทาง 10.105 กิโลเมตร ให้เป็นถนนแบบ 4 เลน หรือ 4 ช่องจราจร เพื่อรองรับเส้นทางยุทธศาสตร์สายเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor)
โดยมีนายพงศ์พันธ์ คงสมบูรณ์ ผู้อำนวยการแขวงการทางเพชรบูรณ์ที่ 1 เป็นผู้กล่าวรายงาน และมีทีมวิศวกรออกแบบถนนของกรมทางหลวง นำรูปแบบถนนที่มีการออกแบบเพิ่มเติมโดยเก็บอุโมงค์ต้นไม้ไว้ จำนวน 4 โมเดล มาเปิดสไลท์พร้อมบรรยายถึงข้อดีข้อเสียในแต่ละโมเดล ให้ผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านจาก 3 ตำบลที่เข้าร่วมประชุมจำนวนกว่า 150 คน ที่มีส่วนได้เสีย ได้ชมเพื่อประกอบการพิจารณาในการแสดงความคิดเห็น หลังจากมีกระแสคัดค้านจากชาวโซเชียลมีเดียและกลุ่มเอ็นจีโอถึงการตัดโค่นอุโมงค์ต้นไม้
สำหรับบรรยากาศการประชุมมีการกล่าวโจมตีกลุ่มอนุรักษ์ ที่คัดค้านการตัดโค่นอุโมงค์ต้นไม้ กันอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน โดยผู้นำหมู่บ้านและชาวบ้านส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.หล่มสัก ต่างแสดงความคิดเห็นไปในแนวทางเดียวกัน คือ ให้เร่งทำการก่อสร้างถนนตามแบบที่ทีมวิศกรกรมทางหลวงได้ออกแบบไว้ตั้งแต่แรก เนื่องจากต้นฉำฉาหรือต้นก้ามปู ที่นักอนุรักษ์มองว่าเป็นอุโมงค์ต้นไม้ ถ้าปล่อยไว้จะมีแต่ผลเสียมากกว่าผลดี
เนื่องจากต้นฉำฉาหรือต้นก้ามปูที่ถนนสายดังกล่าว เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุกับรถยนต์ที่สัญจรวิ่งผ่านไปมาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนต้นฉำฉามักจะหักโค่นลงมาขวางถนน และทับรถยนต์จนได้รับความเสียหาย เพราะต้นฉำฉาเป็นไม้เนื้ออ่อนและมีอายุมากแล้ว จึงทำให้ผุกร่อนหักโค่นลงมาง่าย
ดังนั้นจึงขอให้เร่งทำการก่อสร้างขยายถนนเพื่อเป็นการลดอุบัติเหตุ และเพื่อความเจริญ โดยให้เลือกเอาระหว่างต้นฉำฉากับชีวิตคนที่ได้รับอุบัติเหตุ ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ซึ่งเป็นผู้คัดค้าน ได้นั่งนิ่งเงียบรับฟัง โดยไม่ได้ลุกขึ้นชี้แจงหรือแสดงความคิดเห็นให้ข้อเสนอแนะแต่อย่างใด
นายบัณฑิต เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า ในที่ประชุมวันนี้มีความเห็นหลากหลาย ทุกท่านแสดงความคิดเห็นอย่างจริงใจ ทุกคนพูดตรงกันว่า ต้องการในเรื่องของความปลอดภัย ในเส้นทางดังกล่าว เมื่อดำเนินการปรับปรุงขยายเป็น 4 ช่องจราจรแล้ว สิ่งที่ทุกคนห่วงใยก็คือความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน สิ่งต่างๆในข้อเสนอแนะของประชาชนก็จะเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะนำเสนอฝ่ายนโยบายเพื่อพิจารณาต่อไป
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กล่าวว่า เสียงสะท้อนบนเวทีไม่ใช่เป็นข้อสรุปเสมอไปอย่าลืมปัญหาที่กลุ่มนักอนุรักษ์ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านเหล่านี้ ก็มิใช่เป็นผลประโยชน์ของคนใดคนหนึ่งแต่เป็นผลประโยชน์ของประเทศ โดยเฉพาะในยุคนี้ต้องรักษาต้นไม้ไว้เพราะสถานการณ์โลกร้อนเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญ หากไม่ช่วยกันดูแลปัญหาเหล่านี้ ก็จะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคต