หญิงชราตายโดดเดี่ยวในเพิงสังกะสี พบเงินทองกว่า 2 แสนบาท
(29 พ.ค.) เมื่อเวลา 19.30 น. พ.ต.ท.วุฒิ พระเดชวงษ์ สารวัตรสอบสวนสภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากนางน้อย อามาต อายุ 65 ปี ว่า มีหญิงชราผู้เสียชีวิตภายในเพิง พักสังกะสี ไม่มีเลขที่ ภายในซอยไพศาล หมู่ 5 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู แพทย์เวรสถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม นายบุญเกิด ศรีแย้ม กำนันตำบลบางพูน
ในที่เกิดเหตุบริเวณท้ายซอยพบเพลิงพักมุงด้วยสังกะสี และไม้เก่า ๆ หลังคาสังกะสีปลูกอยู่สภาพผุพัง ภายในบ้านพักพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิงชรา นอนหงายอยู่ที่พื้นบ้าน ทราบชื่อเพียงนางเภา อายุประมาณ 65 ปี จากการชันสูตรเบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8-12 ชม.โดยไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่ตัวผู้เสียชีวิต พบเงินสด จำนวน 53,870 บาท และสร้อยคอทองคำ 1 เส้น น้ำหนัก 2 บาท ,สร้อยข้อมือ 3 เส้น น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น ,สร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักเส้นละ 1 บาท จำนวน 1 เส้น ,แหวนทองคำ 4 วง ,เข็มขัดเงิน 1 เส้น รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้นประมาณ กว่า 2 แสนบาท โดยพบว่าเงินสดถูกบรรจุอยู่ในถุงพลาสติก ถุงละประมาณ 5 พันบาท พร้อมทั้งถุงทองคำ ห่อด้วยผ้าสีฟ้า คาดอยู่ที่เอวของผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงเก็บทรัพย์สินทั้งหมดมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน
นางน้อย อามาต อายุ 65 ปี ให้การว่า ผู้เสียชีวิตอยู่คนเดียวเพียงลำพัง มีอาชีพทำขนมไทย เข็นรถเข็นไปขาย โดยไม่เคยเห็นญาติหรือลูกหลาน และไม่ทราบว่ามีญาติพี่น้องอยู่ที่ไหน โดยปกติจะทักทายกันเวลาที่แกเข็นรถขนมมาที่ปากซอย และทราบว่าแกบ่นว่าไม่สบาย แต่วันนี้เอะใจว่าไม่เห็นเข็นรถมาขายขนม จึงได้ชวนเพื่อนบ้านและหลานๆ เดินมาดู ก็พบว่ายายนอนหงายอยู่กลางบ้าน เมื่อเข้าไปดูก็พบว่าเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งกำนันในตำบล ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามกำนันในตำบล แจ้งว่าผู้เสียชีวิตไม่มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านใด เป็นผู้เข้ามาอาศัยปลูกเพิงพักในพื้นที่ ซึ่งไม่ทราบประวัติว่ามาจากไหน รวมทั้งไม่มีเอกสารใดใด มีอาชีพขายขนม ซึ่งเบื้องต้นได้เก็บทรัพย์สิน ที่พบไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ตรวจค้นภายในบ้านอย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบหาข้อมูลว่าเป็นใครมาจากไหน และมีญาติพี่น้องอยู่ที่ไหน ส่วนศพจะได้มอบให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตต่อไป