เจ้าอาวาสเผยภาพลุงปั่นขอทานเงินล้าน ยันไม่ได้นั่งขอทาน
(2 มิ.ย.) เจ้าอาวาสวัดอุปคุต กลางเมืองเชียงใหม่เผยภาพถ่ายล่าสุดของ "นายปั่น อโนมา" ขอทานเงินล้านที่มาอาศัยวัดอยู่ช่วงที่มาเชียงใหม่ทุกครั้งในช่วงกว่า 20 ปี และ ล่าสุดอยู่นาน 5 เดือนเพิ่งกลับไปช่วงเดือนพฤษภาคมก่อนที่จะไปเสียชีวิตที่สมุทรสาคร ยืนยันไม่ได้มาขอทานที่เชียงใหม่ น่าจะเป็นคนพื้นเมืองเชียงใหม่เนื่องจากพูดคำเมืองมีสติสมประกอบดี
ขณะที่เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯเชียงใหม่เผยขั้นตอนของการตามหาบุคคล เชื่อว่าญาติที่แม่แตงกับนายปั๋น เป็นญาติจริงแต่อยู่ที่การตัดสินใจของญาติ ความคืบหน้ากรณีการติดตามญาติของ นายปั่น อโนมา ขอทานเงินล้าน ที่เสียชีวิตลงและทิ้งเงินไว้กว่า 1.5 ล้านบาท
ล่าสุดทางพัฒนาสังคมและความมั่นของของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ ลงพื้นที่ติดตามเบาะแสกรณีที่มีข้อมูลว่า นายปั่น อโนมา เคยมาอาศัยวัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่เป็นที่อาศัยในช่วงที่มาอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่หลายครั้งในรอบเกือบ 30 ปีที่ผ่านมา โดย นายปั่น ได้มาอาศัยกินนอนอยู่ที่วัดอุปคุต ถนนช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ใกล้กับย่านไนท์บาร์ซาร์เชียงใหม่
โดย พระครูพัธธนาธิมิต เจ้าอาวาสวัดอุปคุต ได้พาไปไปดูแคร่ที่ นายปั่น ใช้เป็นที่หลับนอนบนชั้น 2 ของกุฏิพระซึ่งยังอยู่ที่เดิมซึ่ง นายปั่น เพิ่งใช้เป็นที่หลับนอนล่าสุดเมื่อมาอยู่เชียงใหม่นานกว่า 5 เดือน
เจ้าอาวาสเล่าว่า ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแห่งนี้ตั้งแต่ปี 40 ก็พบ นายปั่น เดินทางมาขอพักอยู่ที่วัดแห่งนี้ต่อเนื่อง ซึ่งส่วนใหญ่จะเดินทางมาในช่วงของเทศกาลงานประเพณีของชาวเชียงใหม่ ตั้งแต่เจ้าอาวาสองค์ก่อน และตลอดกว่า 20 ปีที่ผ่านมาจะมาขออาศัยวัดแห่งนี้อยู่ตลอด ทุกครั้งที่มาก็จะมีเสื้อผ้าและของใช้ห่อผ้ามาผืนเดียวและไม่เดคยมาขอทานที่เชียงใหม่เลย แถมยังมีเงินใช้สำหรับซื้ออาหารการกินเองโดยไม่ได้พึ่งทางวัดเลยแม้แต่ครั้งเดียวนอกจากที่อาศัยหลับนอนเท่านั้น และนายปั่นน่าจะเป็นคนพื้นเมืองหรือชาวเชียงใหม่เนื่องจากพูดภาษาเมืองได้คล่องและชอบกินอาหารพื้นเมืองและมีความประหยัดมากกินเพียงข้างเหนียวกับถั่วเน่าและแคบหมูเท่านั้น แถมยังร้องซอคำเมืองได้ด้วยอารมณ์ดี
ล่าสุด เป็นช่วงที่มาอยู่วัดแห่งนี้นานที่สุดถึง 5 เดือนตั้งแต่ช่วงลอยกระทงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาจนถึงช่วงสงกรานต์ก็ยังอยู่ต่ออีกเกือบ 1 เดือน และเพิ่งเดินทางกลับไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะทราบข่าวว่าไปเสียชีวิตที่สมุทรสาคร ซึ่งเจ้าอาวาสยืนยันว่า นายปั่น ไม่เคยมาขอทานที่เชียงใหม่เลยทั้งที่วัดหรือสถานที่ต่างๆ ในเมืองเชียงใหม่ซึ่งเท่าที่พบจะเห็นว่าไปเที่ยวเท่านั้นโดยใช้เงินของตนเองซึ่งทางวัดก็ไม่ได้ไปก้าวก่ายเรื่องเงินทองของนายปั่น
พร้อมกันนี้เจ้าอาวาสวัดได้โชว์ภาพถ่าย นายปั่น ล่าสุด ที่เพิ่มถ่ายเมื่อเดือนก่อนที่จะออกไปจากวัด แต่ช่วงหลังนี้จะเห็นว่านายปั่นเงียบๆ ไปไม่อารมณ์ดีเหมือนแต่ก่อน
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลและหลักฐานดังกล่าวก็สอดคล้องกับทางญาติที่อำเภอแม่แตงที่เพิ่งเปิดเผยตัวออกมาและทางพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ได้สืบทราบจากหลักฐานจนน่าเชื่อถือว่าเป็นครอบครัวของนายปั่นจริง โดยพี่ชายคือ นายตา ตามทะเบียนราษฎร์
ทางด้าน นางนิภาวดี อินปันบัตร หัวหน้าฝ่ายคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขั้นตอนของการติดตามสืบค้นประวัติบุคคลหรือผู้สูญหายนั้นคือเริ่มจากสอบทะเบียนประวัติ โดยสืบจากชื่อหรือเอกสารที่มี ยืนยันเพื่อหาเลขบัตรประจำตัวประชาชน แต่หากไม่มีเอกสารคงต้องพิสูจน์จากพยานหลักฐาน หรือพยานบุคคลรอบข้างยืนยัน ก่อนที่จะตรวจสอบไปจนถึงขั้นของการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ซึ่งอาจจะไปถึงการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับทางญาติ
ส่วนกรณีนี้มีหลักฐานระบุตัวตนชัดเจนจึงเชื่อว่าทั้ง นายปั่น และ นายตา จะเป็นพี่น้องกันจริง ส่วนญาติตอนนี้เรื่องของการพิสูจน์นั้นไปอยู่ในขั้นตอนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วทางพัฒนาสังคมเป็นเพียงผู้ประสานข้อมูลและความช่วยเหลือจากทั้ง 2 พื้นที่ ซึ่งกรณีที่ทางญาติที่เชียงใหม่ต้องการเดินทางไปหร่วมงานศพหรือเพื่อไปแสดงตัวยืนยันหรือให้ตรวจอีเอ็นเอก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือหากขัดสนเรื่องของค่าใช้จ่ายทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทางญาติเท่านั้นเป็นสำคัญ