ทำแผนมือยิง "บังมุด" สี่แยกพระนั่งเกล้า ญาติฮือประชาทัณฑ์

ตำรวจรวบมือยิง "บังมุด" ผู้กว้างขวางย่านพระนั่งเกล้า เสียชีวิตกลางสี่แยกไฟแดง หวิดเกิดเหตุชุลมุน ญาติๆ ลุกฮือรุมประชาทัณฑ์

(6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ศุภชัย เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ วิมลาพาณิชย์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.เมษนนท์ นาขวัญ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ สว.สส. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ-สายสืบ ร่วมกันควบคุมตัว นายพรเทพ ปลื้มตา อายุ 21 ปี โดยกล่าวหาว่าฆ่าคนตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาติ พกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร

จากนั้นจึงนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณสี่แยกไฟแดงพระนั่งเกล้า ต.บางกรสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี ขณะก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.ยิง นายสันติ หรือ บังมุด อายุ 35 ปี ผู้กว้างขวางย่านพระนั่งเกล้า อาชีพขี่จักรยานยนต์รับจ้าง จนเสียชีวิต เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการทำแผนนั้น ได้มีพรรคพวกของบังมุด พยายามบุกกรูกันเข้ามา หมายจะรุมทำร้าย นายพรเทพ ด้วยความเจ็บแค้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันกันตัวออกห่าง แต่ไม่วายชุลมุนโดนสวนไปหลายหมัด

พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เปิดเผยว่าสาเหตุการสังหารครั้งนี้ เกิดจากทั้ง 2 คนไปงานเลี้ยงวันเกิดของ นายปุ้ย เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา โดยมือปืนไปเหยียบถูกเท้า บังมุด เลยโดนตบด้วยหลังมืออย่างแรงไปหนึ่งครั้ง แต่เจ้าภาพ นายปุ้ย ได้ขอร้องทั้ง 2 ฝ่าย เห็นแก่ตนเองเพราะเป็นวันเกิด ทำให้ นายพรเทพ เก็บความแค้นฝังใจเอาไว้

ต่อมารู้ว่า บังมุด มีอาชีพขี่วินจักรยานยนต์ อยู่ใกล้แยกพระนั่งเกล้า ช่วงคืนวันเกิดเหตุ จึงมาดักรอ ก่อนสบโอกาสขณะผู้ตายกลับจากขี่ส่งผู้โดยสาร แล้วชะลอรถเลี้ยวโค้งบริเวณที่เกิดเหตุ จึงลั่นกระสุนใส่ระบายแค้นไป 6 นัด จนเสียชีวิต

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าคนร้ายรายนี้คือ นายพรเทพ จึงได้ประสาน นายปุ้ย ให้มาพบแต่ นายพรเทพ ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่คนร้าย อ้างว่าคืนที่เกิดเหตุ พักผ่อนอยู่ชายหาดบางแสนกับเพื่อนๆ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ให้ดูหลักฐานสัญญาณการใช้โทรศัพท์มือถือ ยังพบว่าอยู่ในจุดเกิดเหตุ

อีกทั้งพยานยังยืนยันรูปพรรณสันฐานตรงตามที่คนร้ายลงมือ ขณะยิง บังมุด เสียชีวิต นายพรเทพ จึงจำนนด้วยหลักฐาน ก่อนรับส่ารภาพว่าเป็นคนยิง บังมุดเอง ด้วยความเจ็บแค้นใจ จึงควบคุมตัวไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป