สาวโร่แจ้งความ ชาวบ้านทำร้ายแม่ป่วยไบโพลาร์ กล่าวหาเป็น "ปอบ"

2 แม่ลูกชาวบุรีรัมย์ เข้าแจ้งความเอาผิดชาวบ้านและญาติ รุมใส่ร้ายกล่าวหาเป็นปอบ ทำร้ายร่างกายนานกว่า 3 ปี

(19 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี พานางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 56 ปี มารดา เข้าแจ้งความจับตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ ให้เอาผิดกับญาติและคนในหมู่บ้าน หลังรุมกล่าวหาใส่ร้ายว่าแม่เป็นผีปอบ

น.ส.เอ เล่าว่า แม่ของตนถูกบีบบังคับให้ไปหาพระ หมอผี ที่จังหวัดต่างๆ เพื่อทำพิธีขับไล่หลายครั้ง จนทำให้ครอบครัวเกิดความอับอายเสื่อมเสีย ถูกชาวบ้านเกลียดชัง และยังได้ทำร้ายร่างกายแม่จนได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง เป็นเวลานานกว่า 3 ปี

ส่วนสาเหตุที่ชาวบ้านกล่าวหา น่าจะมาจากที่มีคนข้างบ้านเป็นโรคมะเร็ง และอีกคนเป็นโรคหอบหืด เมื่อทั้งสองมีอาการเจ็บป่วยกำเริบขึ้นมา ชาวบ้านก็จะกล่าวหาว่า แม่ ที่อยู่บ้านคนเดียว เป็นปอบมากินตับ ไต ไส้พุงของคนป่วย น.ส.เอ เล่าอีกว่า แม่ของตนป่วยมีอาการเหม่อลอยหรือพูดคนเดียว โดยแพทย์ระบุว่าเป็นโรคไบโพลาร์ หรือมีอารมณ์ 2 ขั้วในคนๆ เดียว ไม่ได้เป็นปอบหรือภูตผีตามที่ถูกกล่าวหา

น.ส.เอ กล่าวว่า ด้วยฐานะที่ยากจนตนกับน้องชายจึงต้องเดินทางไปทำงานรับจ้างยังต่างจังหวัด จำเป็นต้องปล่อยให้แม่อยู่บ้านตามลำพัง หากมีวันหยุดก็จะเดินทางกลับมาเยี่ยมแม่ แต่ระยะหลังๆ เมื่อทราบว่าแม่ถูกชาวบ้านรุมกล่าวหาว่าเป็นปอบ และทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง ด้วยความเป็นห่วงและสงสารแม่ จึงได้ลางานมาดูแลแม่และพาแม่เข้าแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินคดีกับผู้ที่กล่าวหาและทำร้ายร่างกายแม่ดังกล่าว