กกต.มีมติส.ส.สัดส่วนยังคงมีสมาชิกภาพอยู่

กกต.มีมติยุติเรื่องส.ส.สัดส่วน ยังคงมีสมาชิกภาพความเป็นส.ส.หาสังกัดพรรคการเมืองอื่นอยู่ได้ ไม่ต้องส่งให้ศาลรธน.ตีความ

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการกกต. กล่าวกรณีที่ประธานเครือข่ายประชาชนภาคอีสานพิทักษ์รัฐธรรมนูญมีหนังสือร้องต่อประธานกกต.เกี่ยวสถานภาพการเป็นส.ส.สัดส่วนของนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และพวกรวม 32 คน หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 2551 ซึ่งเป็นประเด็นเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายว่า จะขาดจากสมาชิกภาพหรือไม่ว่า กกต.มีมติเห็นชอบให้ยุติเรื่องกรณีดังกล่าวตามที่คณะที่ปรึกษากฎหมายเสนอมา

เมื่อสมาชิกภาพการเป็นส.ส.สัดส่วนของนายชัย และพวก ยังไม่สิ้นสุดลงในทันทีตามที่พรรคการเมืองที่สังกัดถูกยุบ นายชัยกับพวกก็ย่อมปฏิบัติหน้าที่การเป็น ส.ส.ต่อไปได้ และไม่เป็นเหตุให้กกต.ต้องดำเนินการส่งเรื่องไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามมาตรา 91 วรรคสามของรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด

นายสุทธิพล กล่าวต่อว่า กรณีดังกล่าวนี้คณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายมีความเห็นว่า เมื่อพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ กำหนดให้ส.ส.มีที่มา 2 ทางที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตและสัดส่วน แต่กรณีที่สมาชิกภาพส.ส.มีเหตุสิ้นสุดลงเมื่อใดอยู่ภายใต้มาตรา 106 ของรัฐธรรมนูญ โดยมิได้กำหนด ส.ส.แบบแบ่งเขตและแบบสัดส่วน มีเหตุที่จะทำให้สมาชิกภาพต้องสิ้นสุดลงแต่ประการใด คณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายจึงเห็นว่าหากได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นส.ส.แล้ว ไม่ว่าจะเป็นส.ส.แบบแบ่งเขต หรือส.ส.สัดส่วนย่อมีสถานภาพเป็นส.ส.เท่าเทียมกัน และเมื่อมิได้มีกฎหมายกำหนดเกี่ยวกับการสิ้นสุดสมาชิกภาพการสิ้นสุดของ ส.ส.ที่มาจากเลือกตั้งแบบสัดส่วน ในกรณีที่พรรคการเมืองที่สังกัดถูกยุบพรรค ไว้เป็นการเฉพาะ ก็ต้องตีความโดยเคร่งครัด การลิดรอนสิทธิบุคคล โดยไม่มีกฎหมายกำหนดไว้ชัดแจ้ง

ดังนั้นกรณีนี้ ส.ส.สัดส่วนของพรรคการเมืองที่ถูกยุบจึงยังคงมีสถานภาพการเป็นส.ส.อยู่ ไม่ต้องสิ้นสุดลงไปพร้อมกับพรรคการเมืองที่ถูกยุบ เพียงแต่ต้องเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นภายใน 60 วันหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ยุบพรรคตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ และหากไม่สามารถเข้าสังกัดพรรคการเมืองอื่นภายในกำหนดได้ ความเป็นสมาชิกภาพของส.ส.ผู้นั้นก็ย่อมสิ้นสุดลงนับแต่วันที่ครบกำหนด 60 วันนั้นตามที่มาตรา 106 ( 8 ) ของรัฐธรรมนูญประกอบมาตรา 20 วรรคหก ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550

นายสุทธิพล กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ผู้ร้องขอให้กกต.พิจารณาวินิจฉัยการประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2551 ของสภาที่มี ส.ส.สัดส่วนของพรรคการเมืองถูกยุบเข้าร่วมประชุมด้วยซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรคสามหรือไม่นั้น ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกกต. ต้องเป็นผู้วินิจฉัย สำนักกฎหมายและคดีของกกต.จึงเห็นควรให้ยุติเรื่อง หรือแจ้งให้ผู้ร้องทราบต่อไป ส่วนกรณีประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ร้องมาในกรณีเดียวกันนั้นอยู่นอกเหนือจากข้อกฎหมาย ทางสำนักกิจการพรรคกาเมืองจะนำเสนอต่อกกต.เพื่อพิจารณาต่อไป