วู้ดดี้ โล่งคนเข้าใจ แต่งงานไม่จำเป็นต้องจำกัดเพศ

เรียกว่าโล่งใจสุดๆ เมื่อได้ออกมาเปิดเผยกับสาธารณะชนว่าได้ตัดสินใจเข้าพิธีวิวาห์กับหวานใจหนุ่มนอกวงการที่ซุ่มคบกันมานานถึง 9 ปี ล่าสุดพิธีกรฝีปากกล้า "วู้ดดี้ มิลินทจินดา" ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกหลังเป็นข่าวว่า รู้สึกโล่งใจที่ทุกคนร่วมแสดงความยินดีและรู้สึกเขินทุกครั้งเหมือนเหตุการณ์เพิ่งจะเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่ผ่านมาได้ 2ปีแล้ว พร้อมบอกการตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะมีคุณแม่หลายท่านเข้ามาบอกว่าเปิดใจยอมรับลูกที่เป็นเพศที่สามขึ้น

"เร็วๆ นี้ผมมีแผนจะไปเที่ยวสมุยประมาณเดือนตุลาคมครับ หาที่พักได้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง"

จะพาแฟนไปด้วยไหม?
"ไปครับ แล้วก็จะมีเหมือนเพื่อนชาวต่างชาติไปด้วย"

แล้วแบบนี้จะมีเวลาสวีตเหรอ?
"มันแยกห้องนอนไงครับ (หัวเราะ) แต่ว่าตอนเนี้ยเพื่อนชาวต่างชาติเขาก็ส่งข้อความกลับมาเยอะว่าอยากจะมาเจอ อยากจะมาเที่ยว และอยากจะมาฉลองด้วย"

หลังจากมีข่าวเรื่องที่แต่งงานออกไป เป็นอย่างไรบ้าง?
"ตอนนี้ก็มีหลายๆ คนมาแสดงความยินดีด้วย ผมก็ต้องขอบคุณมากครับ ไปไหนมาไหนมีแต่คนเข้ามายินดีด้วยตลอด บางทีผมก็รู้สึกเขินเหมือนกัน เพราะว่าเรื่องนี้มันเกิดขึ้นมา 2 ปีกว่าแล้ว ผมยังบอกกับแฟนและเพื่อนๆ ที่ไปร่วมงานอยู่เลยว่างานแต่งงานมันเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เลย ส่วนตัวมองว่าข่าวนี้เป็นเรื่องที่ดีทำให้ความรักของเรามันแน่นขึ้น สามารถจับมือกันได้ในที่สาธารณะโดยที่ไม่ต้องรู้สึกงง และที่เจ๋งไปกว่านั้นคือทำให้ผู้หญิงหลายคนที่เป็นคุณแม่เข้ามากอดวู้ดดี้ได้ ตอนแรกก็งงว่าเขาเข้ามากอดทำไมคุณแม่คนนั้นบอกว่าลูกของเขาก็เป็นเกย์เหมือนกัน แต่ไม่เคยคุยกันเรื่องนี้เลย แต่พอได้เห็นข่าวของผมในเช้าวันนั้นก็ได้เข้าไปกอดลูกชายตัวเองแล้วก็บอกว่าแม่โอเคกับลูกนะ ลูกเขาก็ร้องไห้โฮเลย ตรงนี้แหละทำให้ผมรู้สึกว่าอย่างน้อยสิ่งที่ผมได้ออกมาพูดมันน่าจะเป็นประโยชน์ต่อหลายครอบครัว ต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวของหลายบ้าน ซึ่งผมก็อยากจะให้มันเป็นไปทางนั้นด้วย"

ทำไมเมื่อ 2 ปีที่แล้วถึงเลือกที่จะไม่บอกสื่อ เป็นเพราะต้องการปิดบังหรือเปล่า?
"ตอนนั้นผมแค่มองว่ามันเป็นสิ่งที่คนไทยอาจจะไม่เก็ต แต่ผมกับแฟนก็รู้สึกว่าวันนั้นพร้อมมาก ในเมื่อพร้อมแล้วทำไมถึงจะต้องมานั่งรอว่าสังคมจะเก็ตหรือไม่เก็ตเพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเราสองคนมากกว่า เพื่อนๆ รอบข้างก็เจ๋งมากเลย ไม่ว่าจะเป็นกาละแมร์, จ๋า ยศสินี และอีกประมาณ 10 กว่าคน ทุกคนปิดเป็นความลับหมด ต้องบอกว่าตอนนั้นเป็นเป็นช่วงสองสามวันที่มีความสุขที่สุด ทุกๆ วันวาเลนไทน์ก็จะกลับมาฉลองกันใหม่ ภาพที่เห็นว่าไปภูเก็ตอันนั้นคือเป็นภาพที่ไปฉลองความรักด้วยกัน หลายๆ คนที่อาจจะมีคู่หรือไม่มีคู่ไปฉลองด้วยกันทั้งหมด เพราะวันวาเลนไทน์เป็นวันที่สำคัญมากในหมู่เพื่อน ๆ ของกลุ่มเราครับ สำหรับสถานที่แต่งงานของผมคือศรีพันวาจังหวัดภูเก็ต จัดขึ้นในวันวาเลนไทน์เมื่อ 2 ปีกว่าที่แล้ว"

เรียกว่าวันนี้สบายใจขึ้นใช่ไหมที่ได้เปิดเผย?
"ผมรู้สึกเบาตัว ไปไหนมาไหนก็รู้สึกว่าชีวิตไม่มีอะไรต้องคิดอีกแล้ว"

พอมีข่าวออกมา แฟนว่าอย่างไรบ้าง?
"ผมก็รู้สึกว่าเขามีจุดยืนในสังคมที่มันชัดมากขึ้น สมัยก่อนเวลาแนะนำก็จะต้องบอกว่าคนนี้คือเพื่อน คนอื่นก็จะมองว่าเอ๊ะ! ใช่หรือเปล่า หรืออะไรยังไง แต่เดี๋ยวนี้แค่มองหน้ากันก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่ผมคบด้วย"

จากนี้วางแผนอนาคตกันยังไงบ้าง?
"อนาคตยังไม่วางแผนอะไรเลย เอาปัจจุบันให้รอดก่อน เอาตรงๆ ทุกวันนี้ที่ตื่นมาก็ยังไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นวันต่อไปหรือว่าชาติหน้า ฉะนั้นทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า"

คิดจะจดทะเบียนแต่งงานที่ต่างประเทศไหม?
"ยังไม่มีความคิดครับ แต่วันนี้แฮปปี้มาก และขอบคุณทุกคนที่ส่งความรักมาให้ บอกได้เลยว่าตั้งแต่อยู่วงการมาไม่เคยสัมผัสความรักอะไรมากเท่านี้ และขอพูดอีกนิดนึงนะครับ ผมเห็นเพื่อนชาวต่างชาติที่ส่งข้อความมาเป็นกังวลกับเราสองคนมาก บอกว่าข่าวมันออกมาค่อนข้างจะหนักเหมือนกับว่าโดนสังคมในโซเชี่ยลฯ รุมด่าว่าผม เลยอยากบอกว่าใครที่แปลข่าวภาษาอังกฤษพยายามแปลให้มันตรงด้วย เพราะผมได้รับความรักจากพี่น้องชาวไทย คอมเม้นต์ต่างๆ ที่เป็นทางลบก็มองข้ามไปเถอะ มันไม่ใช่เรื่องสำคัญ ผมก็ไม่อยากให้เพื่อนต่างชาติมากังวลว่าประเทศไทยไม่ยอมรับเรื่องแบบนี้ทปิดกั้น หรือล้าหลังขนาดนั้นเชียวเหรอ ซึ่งมันไม่ใช่ สำหรับผมแล้วความรักเป็นสิ่งที่สวยงามและความรักคือการให้ ฉะนั้นทุกคนควรกลับไปมอบความรักให้กับครอบครัวและคนที่ตัวเองรักให้มากๆ ครับ"