อดีตทหารไทใหญ่ ฆ่าโหดเพื่อนคนงาน บอกถูกทำร้ายก่อน
อดีตทหารไทใหญ่ฆ่าโหดเพื่อนก่อสร้าง แบกศพโยนทิ้งข้ามกำแพง อ้างอีกฝ่ายบุกเข้ามาจะทำร้ายก่อน จำเป็นต้องปกป้องตัว เพื่อเอาตัวรอด
(3 ก.ค.) ร.ต.อ.ทรงศักดิ์ ปัญญาดี ร้อยเวร สภ.สันกำแพง ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้ายเสียชีวิต ริมถนนข้างรั้วของไซต์งานก่อสร้าง ถนนเชียงใหม่-แม่ออน บ้านสันป่าค่า หมู่ที่ 8 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งจึงได้นำเรียนผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น จากนั้นจึงได้รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่จุดเกิดเหตุพบบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย นอนเสียชีวิตอยู่ริมถนน มีดินโคลนติดตามลำตัว ทราบชื่อต่อมาคือ นายดวงจันทร์ อายุ 53 ปี จากการชันสูตรพลิกศพในเบื้องต้นได้พบร่องรอยของการต่อสู้ และการถูกทำร้าย มีบาดแผลที่ใบหน้าและลำคอ
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ออกติดตามหาตัวคนร้าย ได้เข้าไปตรวจที่ไซต์งานก่อสร้างที่อยู่ใกล้เคียง จึงพบชายต้องสงสัย ลักษณะมีพิรุธ จึงได้เข้าไปสอบถามและขอตรวจดูร่างกาย ก็พบว่ามีร่องรอยบาดแผลถูกอาวุธมีดบาดตรงบริเวณหน้าอกและใบหน้า ทราบชื่อต่อมาคือ นายพงพัท อายุ 33 ปี
จากการสอบปากคำเบื้องต้น นายพงพัท รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง โดยตนเคยเป็นทหารไทใหญ่ แต่ได้ออกจากการเป็นทหารแล้ว จากนั้นก็ได้ออกมาหางานทำด้วยการรับจ้างอยู่ตามไซต์งานก่อสร้างต่างๆ และตนก็ได้มาทำงานที่ไซต์งานแห่งนี้ ได้ราวๆ 10 วันแล้ว พร้อมกับได้พักอยู่ใกล้กับห้องพักของผู้เสียชีวิต
ช่วงแรกที่ตนมาถึงก็ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้เสียชีวิตตลอด บางครั้งก็เข้าไปนั่งดูทีวีด้วยกัน แต่ก็มักจะถูกผู้ตายต่อว่า ด่าทอลามปามไปถึงบุพการี แต่ตนก็ไม่ได้โกรธอะไร ก็ยอมๆ ไป ช่วงก่อนเกิดเหตุตนก็ได้ไปดื่มสุรา และกลับมานั่งกินข้าวที่ห้องพัก กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ขณะที่กำลังจะเข้านอน นายดวงจันทร์ ก็ได้เดินเข้ามาและถืออาวุธมีดมาด้วย
นายดวงจันทร์ บอกว่ามีคนในหมู่บ้านสันป่าค่าอยากให้มาฆ่าตน พร้อมกับมุ่งตรงมาจะทำร้ายตน จึงได้เกิดการต่อสู้กัน ตนอาศัยความเชี่ยวชาญที่เคยเป็นทหารเก่ามาก่อน จึงรู้วิธีการต่อสู้มาบ้าง ก็ได้ใช้แรงเข้าสู้ แม้ว่าจะตัวเล็กกว่า โดยได้ชกเข้าไปที่บริเวณใบหน้าของนายดวงจันทร์ล้มลงกับพื้น
จากนั้นตนจึงได้ใช้มือบีบคอจนเสียชีวิต ก่อนจะแบกศพขึ้นบ่า แล้วเดินไปที่ริมกำแพง ที่อยู่ห่างจากที่พักประมาณ 20 เมตร ก่อนโยนศพทิ้งข้ามกำแพง กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตามจับกุมได้ดังกล่าว
หลังการสอบสวนแล้วจึงได้ควบคุมตัว นายพงพัท ไปดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนศพผู้เสียชีวิตได้ส่งไปยังแผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตอีกครั้ง ก่อนจะติดต่อทางญาติ เพื่อให้เดินทางมารับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป