เลือดเย็น! หนุุ่มแทงเพื่อนดับ 2 ราย ลากไปซ่อน-ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านกับศพ

หนุ่มโหดแทงเพื่อนดับ 2 ศพ ปมทวงค่ายาอัลปราโซแลม ลากศพไปซ่อนหลังบ้าน ก่อนใช้ชีวิตอยู่ในบ้านตามปกติ จนถูกจับกุมได้

วานนี้ (4 ก.ค.) พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุนทะเล พร้อมเจ้าหน้าที่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบ ที่เกิดเหตุในซอยเพชรนครินทร์ หมู่6 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังได้รับแจ้งเหตุแทงกันตาย 2 ศพ

ภายในห้องแถว เต็มไปด้วยคราบเลือด กลิ่นคาวคลุ้ง พบศพนายอนุสรณ์ อายุ 22 ปี อยู่อยู่ในสภาพนอนหงาย ที่ศีรษะยังสวมหมวกกันน็อคอยู่หน้าประตูทางเข้า มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดที่หน้าท้อง อกซ้าย ขวา รวม 4 แผล ส่วนอีกรายทราบชื่อนายณัฐวัฒน์ อายุ 23 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านหลังบ้าน มีบาดแผลถูกแทงเข้าที่ด้านหลังจำนวนกว่า 20 แผล

นอกจากนั้นพบนายแวอัสมาน แวนาแว อายุ 28 ปี ผู้ก่อเหตุ อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้เจราจาให้ออกมามอบตัว แต่ไม่ยอม เจ้าหน้าที่จึงได้ทำลายประตูเข้าไปทำการควบคุมตัว ตรวจสอบภายในห้องพัก และพบผู้ตาย 2 ศพดังกล่าว

ล่าสุด (5 ก.ค.) เมื่อเวลา 07.30 น. พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำตัว นายแวอัสมาน แวนาแว อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่านายณัฐวัฒน์อายุ 23 ปี และ นายอนุสรณ์ อายุ 22 ปี มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายในบ้านเช่าเลขที่ ม.6 ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง สุราษฎร์ธานี

จากการสอบสวน นายแวอัสมาน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุฆ่าบุคคลที่พบเป็นศพทั้ง 2 ราย ในคืนวันที่ 2 ก.ค. เวลาประมาณ 20.00 น. โดยขณะที่เกิดเหตุ ตนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว ก่อนที่ผู้ตายทั้งสองจะมาเรียกที่หน้าบ้าน และขอเข้าไปในบ้าน เพื่อขอทวงค่ายาอัลปราโซแลม จำนวน 6 พันบาท และนายณัฐวัฒน์ 1 ในผู้ตาย ใช้มีดพกขึ้นมาข่มขู่ จนเกิดการต่อสู้

ผู้ตายเป็นคนเริ่มต้นแทงใส่ผู้ต้องหาก่อน แต่ถูกผู้ต้องหาใช้ศิลปะการต่อสู้จับหักมือ และแย่งมีดมาได้และกระหน่ำแทง เป็นจังหวะเดียวกับที่เพื่อนที่มาด้วยกัน พยายามเข้าช่วย ตนจึงได้กระหน่ำแทงไม่ยั้ง จนเสียชีวิตทั้ง 2 คน จากนั้นได้นำศพและรถจักรยานยนต์เข้าไปซ่อนในบ้าน หลังจากนั้นก็ใช้ชีวิตตามปกติในบ้าน ร่วมกับศพอีก 1 วัน จนมาถูกจับกุมในที่สุด

ส่วนบ้านเช่าหลังดังกล่าวเพื่อนอีกคนเป็นผู้เช่า และตนเองได้มาขออาศัยอยู่ประมาณเกือบ 1 ปี แต่ช่วงหลัง เพื่อนไปทำงานที่กระบี่ ตนจึงอยู่เฝ้าบ้านคนเดียว โดยประกอบอาชีพเป็นผู้ช่วยร้านขายผัดไทย แต่เบื้องหลังลักลอบขายยาเสพติดประเภท 4 อัลปราโซแลม ซึ่งสามารถค้นได้ที่ตัวรวม 290 เม็ดด้วย

จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือกระทำทารุณโหดร้าย ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 4 โคลนาซีแพม หรือ โซแลม ไว้ในครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 5 กัญชา โดยผิดกฎหมาย ต่อไป