สวยใช่เล่น! น้องดิ๊งค์ ลูกสาว แอ๊ด สุรชัย ชิมลางงานในวงการครั้งแรก

เห็นแล้วต้องบอกเลยว่าสวยออร่าจับสมคำร่ำลือจริงๆ สำหรับ "ดิ๊งค์ กมลชนก" ลูกสาวคนเล็กของ "แอ๊ด สุรชัย" เพราะล่าสุดเจ้าตัวได้มีโอกาสเข้ามาชิมงานในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัวครั้งแรก ในละครเรื่องนายร้อยสอยดาว โดยมีคุณพ่อแอ๊ดเล่นประกบด้วย แต่ก็ไม่วายถูกมองว่าที่เข้ามาเล่นละครได้นั้นเพราะชื่อเสียงของคุณพ่อที่ทั้งผลัก ทั้งดัน ทั้งฝาก ให้เข้ามา

งานนี้พอมีโอกาสได้พูดคุยกับ ดิ๊งค์ กมลชนก และ แอ๊ด สุรชัย ทั้งคู่ก็ออกมายืนยันว่า ไม่ได้ใช้สิทธิ์ในการฝากแน่นอน เพราะเชื่อว่าทุกอย่างจะดีได้อยู่ที่ฝีมือของตัวดิ๊งค์เอง

วันนี้ถือว่าเป็นการพาลูกสาวมาเปิดตัวเลยไหม เพราะหลายๆ คนยังไม่เคยเห็นหน้า?
แอ๊ด สุรชัย : "ครับ ก็เป็นครั้งแรกของน้องดิ๊งค์ที่ได้รับบทเป็นตำรวจ ซึ่งในเรื่องก็เป็นลูกสาวผมด้วย ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ที่ลูกสาวไปแคส และได้มีโอกาสแสดงเรื่องนี้ ส่วนตัวผมเองก็พลอยฟ้าพลอยฝนไปกับเขาด้วย ได้มาเล่นด้วยก็ต้องขอขอบคุณมากๆ ครับ"
ดิ๊งค์ กมลชนก : "หนูก็มีความตื่นเต้นสูงเหมือนกันค่ะ แต่ได้เล่นคู่คุณพ่อก็อาจจะโชคดีหน่อย ได้ซ้อมบทกันที่บ้าน"

สำหรับละครเรื่องแรกของเราบทบาทท้าทายแค่ไหน?
ดิ๊งค์ กมลชนก : "ค่อนข้างมีความแข็งแรงสูง เนื่องจากเรารับบทเป็นตำรวจหญิง ก่อนหน้านี้ก็มีเข้าไปฝึกที่โรงเรียนนายร้อยสามพรานค่ะ จริงๆ แล้วคุณพ่อก็จะคอยแนะนำมาตลอดตั้งแต่เด็ก มาถึงฝึกซ้อม จนได้รับบท ทุกเช้าพ่อก็จะสอนตลอดค่ะ"

กังวลอะไรเป็นพิเศษไหม?
ดิ๊งค์ กมลชนก : "คงไม่กังวลหรอก แต่ว่าจะทำให้ดีที่สุดค่ะ"

น้าแอ๊ดมีส่วนผลักดันอะไรกับตัวน้องดิ๊งค์บ้าง สำหรับละครเรื่องนี้?
แอ๊ด สุรชัย : "ไปตามกระแส ไปตามความรู้สึกของผู้กำกับ ไปตามบทที่เขาวางเอาไว้ ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรตรงนั้นเลย เพราะน้องเข้าไปคลาสสองเดือนกว่าก็ได้มีนักแสดงรุ่นผู้ใหญ่คอยดูแล ส่วนผมเองไม่ได้เข้าไปเลย เนื่องจากจะทำให้เขากดดันมากกว่า และอีกอย่างหนึ่งเราเป็นพ่อลูก ให้ทางครูบาอาจารย์ตัดสินใจดีกว่าในการที่จะเลือกนักแสดงให้กับละครเรื่องนายร้อยสอยดาว ซึ่งเรื่องนี้พี่ชายเขาก็เล่นเป็นครั้งแรกเหมือนกันตอนที่เขาเล่นละคร อันนี้ก็เป็นครั้งแรกของน้องเหมือนกันนะครับ ก็ขอบคุณที่ให้โอกาสกับครอบครัว ตัวน้องดิ๊งค์ผมก็พยายามให้เขาเชื่อฟังครูบาอาจารย์ครับ"

เรียกว่าเป็นป๋าดันได้ไหม?
แอ๊ด สุรชัย : "ผมไม่ได้ดันหรอก (หัวเราะ) อย่าเรียกว่าอย่างนั้นเลยครับ ทุกคนก็ภูมิใจนะครับถ้ามีลูกสาว มีน้องเรา พี่เราได้เล่นละคร หรือทำงานในตัวที่เขาชอบ มันก็มีความรู้สึกที่เราภูมิใจไปกับเขา ส่วนเขาจะทำได้ดีขนาดไหนอันนี้ก็อยู่ที่ตัวเขา ผมก็ช่วยเขาไม่ได้แล้ว ถ้าเขาแสดงออกมาประสบความสำเร็จ พวกเราทุกคนก็พลอยดีใจไปด้วย แต่ถ้าไม่ประสบความสำเร็จก็ถือว่าได้เล่นละครและเอาไปต่อยอดกับธุรกิจการงานของตัวเองในอนาคตอะไรก็ว่ากันไป จริงๆ ดิ๊งค์ก็ฝึกซ้อมการแสดงมาตั้งแต่บริษัทพี่ชายเขาแล้ว มีไปเสริมๆ บางเรื่อง แต่นี่ถือว่าเป็นเรื่องแรกที่เขาได้เป็นนักแสดงนำ"

ตัวดิ๊งค์เองกดดันไหม ที่พ่ออยู่ในวงการนาน คนเลยมองว่ามีพ่อคอยดัน?
ดิ๊งค์ กมลชนก : "จริงๆ จะดันหรือไม่ดัน หลักๆ อยู่ที่ผลงานของเราด้วย จะดีหรือไม่ดีก็ต้องให้ผู้ชมเป็นคนตัดสินด้วยค่ะ"

งานในวงการบันเทิงเราเดินตามความฝันด้วยตัวเองเลยใช่ไหม?
ดิ๊งค์ กมลชนก : "ใช่ค่ะ เริ่มมาตั้งแต่ปี 56 แล้ว พอเสร็จประกวดนางสาวไทยหลังจากนั้นก็เดินทางนี้เลย"

ได้ขอคุณพ่อให้ช่วยฝากฝังเรื่องงานในวงการบ้างหรือเปล่า?
ดิ๊งค์ กมลชนก : "คุณพ่อบอกไปผอมก่อน (หัวเราะ) จริงๆ ก็อยู่ที่เราด้วยค่ะ"
แอ๊ด สุรชัย : "เวลาผมไปสวัสดีผู้ใหญ่ในวงการ น้องเขาก็จะติดตามไปด้วย ทุกคนก็จะเห็นน้องดิ๊งค์ตั้งแต่เรียนมัธยมอยู่ จริงๆ น้องดิ๊งค์ไม่ได้รับบทตรงนี้นะ มีอีกคนหนึ่งที่ได้รับแต่เขาเกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพร่างกาย ไม่สามารถที่จะไปออกกำลังกายหรือจะต้องแข็งแรงไปกับบทที่จะต้องเป็นตำรวจทหาร ก็เลยต้องหยุดไป รู้สึกว่าเขาจะเป็นภูมิแพ้ ว่ายน้ำไม่ได้ ออกกลางแดดไม่ได้ หรืออาจจะเป็นโชคของน้องดิ๊งค์ด้วยหรือเปล่า แต่จริงๆ เรื่องอย่างนี้ที่ต้องลงทุนเยอะ แล้วน้องดิ๊งค์ก็ยังไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร แต่เพราะว่าเขาเชื่อมั่นกับการที่น้องซ้อมมาสองสามเดือนครับ"

เวอร์ชั่นที่แล้วทำเรื่องนี้ไว้ดีมาก ดิ๊งค์จะเกร็งไหม?
ดิ๊งค์ กมลชนก : "ก็ค่อนข้างมีความกดดันสูงค่ะ เพราะเวอร์ชั่นที่แล้วทำไว้ดีมาก แต่พวกเราก็จะตั้งใจทำให้เต็มที่และสุดฝีมือค่ะ"

ถามถึงน้าแอ๊ดตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
แอ๊ด สุรชัย : "ตอนนี้ก็สบายดีครับ (หัวเราะ)"

ถือว่าเข้าที่ได้หรือยัง?
แอ๊ด สุรชัย : "ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ไม่ต้องห่วงเลยเพราะคุณหมอดูแลผมตลอด คือผมเป็นเหมือนโลโก้ของเขาแล้ว จริงๆ ตอนนี้ผมไม่ห่วงอะไรหรอก เพราะเรามาไกลแล้ว พอเราอยู่ในวงการก็จะรู้ว่าใครทำบ้างไม่ทำบ้าง ส่วนที่ผมทำนั้นมันก็เป็นเรื่องปกติแล้ว ไม่ได้พิเศษอะไร"

พอใจกับใบหน้าที่ทำมาใหม่ไหม?
แอ๊ด สุรชัย : "พอใจมากครับ แต่คุณหมอก็จะดูเป็นช่วงระยะไป ตอนนี้ผ่านมา 4 เดือนแล้ว เขาก็จะดูอีกว่าเราควรจะทำอะไรบ้าง ซึ่งที่ผมบอกว่าเหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์ก็คือเล็กๆ น้อยๆ ตรงตา ยังบวมอยู่บ้าง แต่ก็ต้องเข้าใจเพราะปีนี้ผมอายุ 60 ปีแล้วจะไปทำปุ๊บปั๊บทีเดียวก็คงไม่ได้ ก็เลยต้องใช้เวลาแต่รับรองว่าดีแน่ เพราะเดี๋ยวนี้นวัตกรรมของคุณหมอเขามีเยอะ โชคดีที่เป็นคนไข้ของเขา และถ้าพูดกันจริงๆ คุณหมอก็กดดันเหมือนกันเพราะผมอยู่กับทีวี ละคร ร้องเพลงคุณหมอก็เต็มที่กับเราครับ จะว่าไปใบหน้าของผมตอนนี้ก็โอเคนะ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย รูปหน้าก็คงเดิม แต่ผมชอบตรงที่ผิวพรรณมันดีขึ้น สมัยก่อนผมไม่ค่อยได้ใช้ครีมอะไรแต่คุณหมอเขาก็จะมีนวัตกรรมในการกระตุ้นเซลล์ต่างๆ เพื่อให้มันมีความรู้สึกกระชับขึ้นโดยที่มันจะเป็นของธรรมชาติมากกว่าที่เราจะต้องไปใช้เครื่องสำอาง"

หลายคนทักว่าอย่างไรบ้าง?
แอ๊ด สุรชัย : "ก็บอกว่าดีครับ ล่าสุดมีไปพบนายกฯ ท่านก็บอกว่าหล่อขึ้นหรือเปล่า (ยิ้ม) ก็ขอบคุณมากนะครับ ไปไหนมาไหนทุกคนก็ให้กำลังใจกัน และเอาจริงๆ มันเป็นความสบายใจความสุข ถ้าเรามีความสุขเราก็ทำไป ไม่เห็นมีใครมาว่าหรือติติงเลย ส่วนใหญ่รวมๆ ก็พอใจ ยังมีคนพูดเลยว่าถ้าเป็นเขาก็อยากทำ"

เรียกได้ว่ายิ่งอายุมากขึ้น ยิ่งต้องดูแลตัวเองเพิ่มขึ้น?
แอ๊ด สุรชัย : "เรื่องธรรมดาที่เราเป็นนักแสดงครับ เพียงแต่ว่าตอนนี้ผมยังทำได้ก็ทำไปก่อน ถ้าวันหนึ่งคุณหมอบอกพอแล้วก็ต้องหยุด"

อยากทำอะไรเพิ่มเติมไหม?
แอ๊ด สุรชัย : "ไม่ๆ ครับ ผมไม่ได้เสพติดเรื่องศัลยกรรม เพียงแต่ความเหมาะสมที่คุณหมอเขาดูแลผมก็บอกแนะนำว่าตาผมครั้งแรกทำมาอาจจะไม่เท่ากัน คุณหมอก็มาเก็บใหม่ให้ก็ให้มันดูละเอียดขึ้น"

แสดงว่าอาจจะมีแก้อีกหลายครั้งใช่ไหม?
แอ๊ด สุรชัย : "ก็คงไม่ได้แก้อะไรอีก ถ้าจะเพิ่มเติมจริงๆ คงต้องเป็นการไปบำรุงผิวหน้า ซึ่งจะใช้เครื่องกระตุ้นคอลลาเจนในหน้าเราให้มันทำงานโดยธรรมชาติ"

พอเราทำหน้าใหม่ งานติดต่อเข้ามาเพิ่มขึ้นไหม?
แอ๊ด สุรชัย : "ตั้งแต่เริ่มมีข่าวออกมาก็เหมือนเดิม ไม่ได้มากหรือน้อยไปกว่าเก่า คือมันไม่ได้หมายความว่าหน้าเราเปลี่ยนไปแล้วงานจะเยอะ สิ่งที่สำคัญคือผลงานมากกว่า เพราะช่วงหลังผมหยุดเรื่องเพลงไปเยอะ ก็เล่นแต่ละคร ออกรายการเป็นกรรมการ ร้องเพลงก็มีแต่ไม่ได้มากมายเหมือนสมัยที่เราฮอตๆ"

มีหมอดูก็มีทักไหมว่าหน้าดูมีโหง้วเฮ้งขึ้นเยอะ?
แอ๊ด สุรชัย : "มีครับ เขาก็ทักเหมือนกันว่า ตาแบบนี้โอเค เพราะก่อนหน้านี้ผมเป็นคนตาเล็ก ไม่เบิกบาน พอไปทำก็รู้สึกว่าตามันมีวาวขึ้น เขาก็บอกโหง้วเฮ้งดีแล้ว"

น้องดิ๊งค์เห็นหน้าคุณพ่อแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
ดิ๊งค์ กมลชนก : "โอเคค่ะ ประทับใจหล่อขึ้นค่ะ เพื่อนๆ ก็จะถามเต็มไปหมดเลยว่าหน้าคุณพ่อเป็นอย่างไรบ้าง"
แอ๊ด สุรชัย : "บางทีมีคนมาถามผมนะว่าทำที่ไหน เราก็ไม่อยากไปโฆษณาเดี๋ยวจะหาว่าชักนำคนอื่นก็เลยบอกให้เขาไปดูในข่าวเอาแล้วกันว่าที่ไหนยังไง ซึ่งแต่ละเคสก็ไม่เหมือนกันบางคนทำตาทำจมูกก็ต้องปรึกษาหมอดูเอาครับ"

เครดิตภาพ IG: dinkkamonchanok