ความน่าฉงนของการกลับมาของ “ขวัญชัย ไพรพนา” .?
ในที่สุดก็กลับมามอบตัว..หลังจาก หลบหนีการพิพากษาของศาลฎีกา ให้จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา 350,000 บาท พร้อมสั่งปรับนายประกันที่ทำสัญญาไว้จำนวน 500,000 บาท ในคดี"ร่วมกันพยายามฆ่า , ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้รับอันตรายสาหัส ร่วมกันทำร้ายร่างกายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และร่วมกันทำลายทรัพย์สิน" เหตุเกิดที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม เขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2551
ไม่ใช่ใครที่ไหน คนดังแห่งเมืองอุดร "ขวัญชัย สาราคำ" หรือ "ขวัญชัย ไพรพนา" แกนนำคนเสื้อแดง แกนนำ นปช.เมืองอุดร นั้นเอง
การหลบหนีของนายขวัญชัย สร้างกระแสฮือฮา ในวงการการเมืองพอสมควร ด้วยเหตุ ภรรยา ซึ่งเป็นผู้มาฟังคำพิพากษา หลังจากที่นายขวัญชัยหลบหนีไปก่อนหน้านั้นจนศาลได้อ่านคำพิพากษาลับหลังจำเลย ในวันที่ 28 มิ.ย. 59 หรือ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง ได้บอกกับสื่อมวลชนว่า นายขวัญชัย บอกกับตนว่า "จะไม่มารับโทษตามคำพิพากษาจนกว่า บ้านเมืองจะเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายและไม่ได้รับความเป็นธรรมระหว่างต้องโทษ"
ผ่านมา 7 วันเท่านั้นเอง ขวัญชัย ดอดมามอบตัว กับ พล.ต.อำนวย จุลโนนยาง ผบ.มทบ.24 ตามที่เป็นข่าวปรากฏ โดย พล.ต.อำนวย เปิดเผยว่า นายขวัญชัยได้กล่าวชี้แจงสาเหตุที่ไม่เข้าไปฟังคำสั่งศาลเนื่องจากยังอยู่ในอาการตกใจ ประกอบกับเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทั่งเมื่อมีความพร้อม จึงติดต่อมายังตน เพื่อนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ไม่ว่าจะด้วยเหตุตกใจ หรือ เห็นว่าบ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตยตามที่ภรรยากล่าวอ้างก็ตาม แต่ ข้อเท็จจริงคือ นายขวัญชัยเป็น ผู้หลบหนีคำพิพากษา หรือตกเป็นนักโทษหนีคดี นั้นเอง
การกลับมามอบตัว หลังปรากฏข่าวว่า ในช่วงหลบหนี นายขวัญชัยไปถ่ายรูปคู่อยู่กับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีซึ่งมีฐานะเป็นผู้หลบหนีคดีเช่นกัน ในต่างประเทศ สร้างความแปลกประหลาดใจให้คอการเมืองไม่น้อยทีเดียว เพราะ
ในช่วงสถานการณ์ทางการเมืองก่อนหน้า รัฐประหาร คสช. ขวัญชัย ถือได้ว่า เป็นกำลังสำคัญ ของกลุ่มนปช.ที่คุมกำลังคุมมวลชนสายอีสาน จำนวนมาก และได้รับความไว้วางใจจากนายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตรค่อนข้างมาก ความสำคัญของขวัญชัย ที่สร้างมวลชนคนเสื้อแดงเป็นฐานกำลังมีจำนวนมากถึงขนาด มีการขนานนามให้ อุดรฯเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดงเลยทีเดียว
การหลบหนีคดีแล้วปรากฏภาพไปยืนถ่ายรูปเคียงคู่กับนายใหญ่ บรรดาเซียนการเมืองได้แต่มองว่า ไม่มีทางที่ขวัญชัยจะกลับมารับโทษคงจะหลบอยู่ต่างประเทศ เหมือนกับบรรดาแกนนำคนอื่นๆ จนกว่าจะมีช่องทางให้บรรเทาโทษ แล้วค่อยกลับมา
ภาพปรากฏที่สื่อออกมา เป็นเสมือนว่า นายใหญ่เข้ามาโอบอุ้มดูแล ขวัญชัย ที่เป็นกำลังสำคัญยามตกที่นั่งลำบากอย่างเต็มที่
วันนี้ ใครจะคาดคิดว่า อยู่ๆ ขวัญชัย ดอดกลับมามอบตัวรับโทษตามคำพิพากษา ...เกิดอะไรขึ้น...? หรือ ขวัญชัย เห็นว่าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยแล้ว...? หรือคนแดนไกล ไม่โอบอุ้ม...? หรือ คนแดนไกล กังวลหากอุ้มชูไว้ในต่างแดน ก็จะเป็นภาระ เดี๋ยวก็จะทยอยกันมาขอพึ่งพาไม่ขาดสาย...? หรือ คิดได้ว่ายอมกลับมารับอาญาแผ่นดินดีกว่า เพราะเดี๋ยวก็พ้นโทษ ยังมีโอกาสอยู่ในแผ่นดินบ้านเกิดเมืองนอน ซึ่งไม่มีที่ใดน่าอยู่ไปกว่าแผ่นดินนี้อีกแล้ว...? .....?...?
วันนี้ คนที่ตอบข้อสงสัยกระจ่างคงมีแต่ ขวัญชัย เพียงคนเดียว ซึ่งน่าติดตามยิ่งว่า เหตุผลใด ขวัญชัย จึงกลับมา..?
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การกลับมาด้วยความเคร่งเครียด ยอมเดินเข้าคุกเข้าตารางของขวัญชัย ทำให้บรรดาแกนนำที่กระทำความผิดตามกฎหมาย ต้องคำกล่าวโทษเป็นคดีกันเป็นหางว่าว ต้องสะเทือน ต้องทำการบ้าน ต้องเช็คสถานะตัวเองกันเป็นการด่วนเป็นแน่แท้ว่า ...หาก เมื่อถึงคราวตัวเอง หากถึงที่สุดโดนตัดสินให้ต้องติดคุกติดตารางขึ้นมา จะหลบลี้หนี้หน้าไปพึ่งใบบุญ ไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองเพื่อไม่ต้องถูกอาญาแผ่นดินได้หรือไม่... หรือ จะทำอย่างไรดี..?
การกลับมาของ ขวัญชัย ในช่วงหน้าฝนนี้ จึงทำให้หลายคนหนาวเหน็บไปด้วยเป็นแน่แท้.........
โดย เปลวไฟน้อย