เพื่อนบ้านทยอยขนของออก เผยมีคนเห็นครูอิ๋วเดินอยู่หน้าห้อง

จากเหตุการณ์สะเทือนใจ น.ส.จุฬารัตน์ หรือ "ครูอิ๋ว" อายุ 27 ปี ถูกคนร้ายบุกฆ่าปาดคอเสียชีวิตศพเปลือยในห้องเช่าไม่มีชื่อ ถนนสุดบรรทัด ซอย 8 เขตเทศบาลเมือง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยคนร้ายคือ นายชาตรี ร่วมสูงเนิน อายุ 27 ปี ซึ่งรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง เหตุจูงใจมาจากแอบชอบผู้ตาย หวังข่มขืนและชิงทรัพย์

ความคืบหน้าล่าสุด (6 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาที่ห้องเช่าในที่เกิดเหตุ และพบว่าผู้ที่เช่าห้องต่างพากันนำรถกระบะมาย้ายข้าวของไปเช่าที่อื่น หลังจากที่ทางเจ้าของกิจการห้องเช่า จะมีการทุบห้องแถวฝั่งที่เกิดเหตุทิ้งไป

จากการสอบถาม นางฐานวดี อายุ 34 ปี ผู้เช่าห้อง เลขที่ 17/ 8 ที่กำลังขนย้ายข้าวของกับสามีออกจากห้อง เปิดเผยว่า ตนเองได้เช่าที่ห้องดังกล่าวอยู่มา 6 ปี และตอนนี้ช่วงหลังเกิดเหตุทางเจ้าของห้องเช่าขอความร่วมมือให้ทุกคนย้ายออกไปก่อน เพราะจะมีการทุบห้องฝั่งที่เกิดเหตุทิ้ง รวม 5 ห้อง

ซึ่งเจ้าของทราบดีว่าอย่างไรทุกคนที่เช่าก็คงไม่กล้าอยู่ ส่วนตนเองได้ออกไปเช่าในตัวเมืองแก่งคอยไว้แล้ว จากห้องที่อยู่เดิมเช่า 1,600 แต่ที่ใหม่ 1,800 บาท ต่อเดือน

ส่วน นายพิน อายุ 49 ปี ผู้เช่าห้องที่ 17/7 ที่กำลังขนข้าวของออกจากห้องเช่นกัน เล่าว่า ตนเองได้ติดต่อบ้านในตัวตลาดแก่งคอยไว้แล้ว และกำลังขนย้ายออกไป

นายพิน ยังเล่าอีกว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมา เพื่อนบ้านซึ่งเช่าอยู่หลังห้องเช่าด้านนอก มาเล่าให้ตนฟังว่าเมื่อช่วงดึกประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา เดินกลับมาจากที่ทำงานเดินผ่านหน้าห้องเช่าได้มองเห็นครูสาวผู้ตาย ใส่เสื้อขาวลายเดินไปมาอยู่หน้าห้อง ซึ่งตนเองรับฟังมาแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร

ขณะที่ นายนรงค์ฤทธิ์ อายุ 38 ปี ผู้ดูแลห้องเช่า เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุครูสาวถูกฆ่าตาย ทางเจ้าของกิจการได้ขอให้ทางผู้เช่าย้ายที่เช่าไปก่อน เพราะทางเจ้าของจะมีการทุบห้องฝั่งที่เกิดเหตุทิ้งไป จะเก็บไว้แค่ฝั่งตรงข้าม จึงเกรงว่าไม่ได้รับสะดวก อีกอย่างตนก็เข้าใจว่าผู้คนที่ยังอยู่คงต้องหวาดกลัวธรรมดา ส่วนหลังจากนั้นตนทราบว่าเมื่อมีการสิ้นสุดคดี ทางเจ้าของก็จะมีการทำบุญให้ผู้ตายด้วย

ส่วนทางห้องเช่าของ นายชาตรี ร่วมสูงเนิน ผู้ต้องหา ช่วงเช้ามีญาติมาขนของออกไปหมดแล้ว ขณะที่ห้องบางส่วนที่ยังเหลือจะมีเจ้าของมาทยอยขนออกเรื่อยๆ

ต่อมาเวลา 15.30 น. นายชาลี แจ่มแสง รักษาการเรือนจำจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า หลังจากที่นายชาตรี เข้ามาอยู่ในเรือนจำ แดนที่ 1 ในห้องควบคุมพิเศษ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจัดให้นักโทษชั้นดี 7คน เข้ามาอยู่เป็นเพื่อน รวมเป็น 8 คน เพราะเกรงว่านายชาตรีจะคิดสั้นทำร้ายตัวเอง ขณะเดียวกันตัวผู้ต้องหามีสีหน้าเคร่งเครียด

ส่วนในช่วงนี้ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำไม่ได้ให้ตัวผู้ต้องหาออกมาทานข้าวด้านนอก เหมือนนักโทษคนอื่นเพราะเกรงจะได้รับอันตราย เพราะช่วงนี้กระแสแรงเกรงว่านักโทษคนอื่นจะทำร้าย

อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำข้าวปลาอาหารมาส่งให้ภายในห้อง พร้อมทั้งตนเองกำชับเจ้าหน้าที่เรือนจำได้เดินมาตรวจดูทุก 20 นาที โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังไม่มีญาตินายชาตรี เข้ามาเยี่ยมแต่อย่างใด