บทสรุปโครงการ “คิดถึงป่า” จากปณิธานสู่พื้นที่สีเขียว

บทสรุปโครงการ “คิดถึงป่า” จากปณิธานสู่พื้นที่สีเขียว

บทสรุปโครงการ “คิดถึงป่า” จากปณิธานสู่พื้นที่สีเขียว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผ่านไปด้วยใจที่ชุ่มชื่นและปลื้มปริ่มสำหรับโครงการ "คิดถึงป่า" ที่จัดขึ้น ณ ภูฝอยลม จ.อุดรธานี ระหว่างวันที่ 6-7 กรกฎาคม 59 ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งอาสาสมัครปลูกป่าและพี่น้องชาวอุดรธานีที่ได้มาร่วมกันทำบุญด้วยความเต็มใจเป็นกันเองและบรรยากาศเต็มไปด้วยภาพแห่งความประทับใจ ทั้งนี้โครงการ "คิดถึงป่า" มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นตัวแทนของคนในประเทศ ในการช่วยเพิ่มจำนวนต้นไม้บนผืนดินไทย สร้างตัวอย่างความรู้ความเข้าใจ "ต้นแบบในการปลูกป่าอย่างยั่งยืน" เพื่อส่งต่อให้อีกหลายๆ พื้นที่

โดยมีเป้าหมายของโครงการคือการปลูกป่าจำนวน 10 ไร่ ต้องใช้เงิน 500,000 บาท และต้องปลูกต้นไม้ 350 ต้นต่อ 1 ไร่ (ไม้ยืนต้นประจำป่า 200 ต้น ไม้ผล 50 ต้น ต้นกล้วย 100 ต้น)

ทั้งนี้ ทางเว็ปไซต์ sanook.com ได้ตั้งเป้าบริจาคไว้หนึ่งแสนบาทเพื่อให้ยูสเซอร์ได้ร่วมสมทบทุนกับโครงการ "คิดถึงป่า" เริ่มต้น 150 บาทเท่ากับได้ปลูกต้นไม้ 1 ต้น ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดีได้ยอดเงินบริจาคทั้งหมด 113,225 บาท และมีจิตอาสาเข้าร่วมปลูกป่ากว่า 300 คน สามารถปลูกป่าได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ คือปลูกต้นไม้ได้ 3,000 ต้นกล้า ลงบนพื้นที่ 15 ไร่

ซึ่งกิจกรรมดีๆแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นได้หากปราศจากผู้ก่อตั้งและปณิธานที่แน่วแน่ของคนรักป่าผู้นี้ พี่เจ เจตริน

"ผมเห็นความเสื่อมโทรมของป่าไม้อยู่ในขั้นวิกฤต เกิดความรู้สึกเป็นห่วงและด้วยเลือดจิตอาสาอยู่ในตัวชอบช่วยเหลือสังคมอยู่แล้ว อีกทั้งผมได้อะไรจากสาธารณะชนมาเยอะแล้ว จึงอยากจะคืนสิ่งดีๆให้กับสังคมบ้าง ก็เลยรวบรวมจิตอาสาเก่าๆที่เคยได้ร่วมงานกันมาแล้วสมัยช่วยน้ำท่วมกรุงเทพฯ มาร่วมทำโปรเจ็คนี้ด้วยกัน นำโดยกองบุญพี่ต้า และได้ปรึกษากันว่าจะมาปลูกป่าที่ภูฝอยลม จ.อุดรธานี สาเหตุเลือกที่นี่เนื่องจากว่าพอถึงหน้าแล้งจะเกิดไฟไหม้ป่าบ่อยมากกลายเป็นป่าเสื่อมโทรม

จึงขอความร่วมมือกับสื่อออนไลน์ sanook.com เพื่อร่วมทำโครงการและได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้บริหาร และยังได้ทำเสื้อยืด "คิดถึงป่า" เพื่อระดมทุนในการปลูกป่าโดยไม่หักค่าใช้จ่าย ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีและรู้สึกดีใจที่คนไทยให้ความร่วมมืออย่างดี ทำให้เห็นว่าคนไทยเห็นคุณค่าของป่า

ป่าต่อให้ปลูกให้ตายยังไงก็ไม่รอดหากยังมีคนที่จ้องจะทำลายป่า ตัดต้นไม้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว พวกเราต้องช่วยกันดูแลป่า รักและหวงแหนพื้นที่สีเขียวทุกตารางนิ้ว เมื่อเราปลูกป่าแล้วต้องปลูกจิตสำนึกของการรักป่าด้วย ถ้าทุกคนมีจิตสำนึกในการรักป่าป่าก็จะอยู่รอดปลอดภัย ระบบนิเวศก็จะดีขึ้น ภัยพิบัติก็จะลดน้อยลง แผ่นดินของเราก็จะอุดมสมบูรณ์และน่าอยู่มากขึ้น

"คิดถึงป่า" เป็นโครงการแรกที่จะใช้ระยะเวลา 1-2 ปี และจะดูแลไปเรื่อยๆ ไม่ใช่การปลูกป่าเพื่อสร้างภาพ แต่เป็นการปลูกป่าถาวรเพื่อลูกหลานของเรา เมื่อโครงการแรกสำเร็จเราก็จะดำเนินการโครงการต่อไปทันทีตามจังหวัดอื่นๆ"

นอกจากปณิธานของผู้ก่อตั้งโครงการ "คิดถึงป่า" แล้ว ความสำเร็จอาจยังไม่เกิดหากขาดพันธมิตรที่ดีที่ช่วยส่งเสริมกิจกรรมดีๆของโครงการนี้ คุณกฤตธี มโนลีหกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สนุก ออนไลน์ จำกัด

"ปัจจุบันผืนป่าของไทยมีจำนวนลดน้อยลงเรื่อยๆ สวนทางกับความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีที่ก้าวเข้ามา นอกจากความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติจะลดน้อยลงแล้ว ยังส่งผลให้เกิดภัยธรรมชาติตามมาอีกด้วย เรามองว่าการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด คือ สร้างต้นแบบการปลูกป่าอย่างยั่งยืน จึงเป็นที่มาของการเริ่มต้นโครงการ "คิดถึงป่า" เพื่อพลิกฟื้นคืนผืนป่าที่ยั่งยืนให้แก่ประเทศไทย

โดยร่วมกับพันธมิตรที่หลากหลายเพื่อสร้างพลังผ่านโลกออนไลน์มาสู่โลกออฟไลน์ Sanook! เชื่อมั่นว่าพลังของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตชาวไทยที่มีมากกว่า 38 ล้านคน จะสามารถเปลี่ยนเป็นพลังรักษ์ป่าที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ เมื่อนำมารวมกับเทรนด์ Crowd Funding ระดมทุนสาธารณะเพื่อการสร้างประโยชน์ให้สังคม ในปีนี้โครงการ "คิดถึงป่า" จะเริ่มต้นปลูกป่าที่ภูฝอยลม จ.อุดรธานี เป็นที่แรก ก่อนขยายโครงการไปยังพื้นที่ต่างๆ ต่อไปในอนาคต

อีกหนึ่งมดงานที่ขาดไม่ได้และโครงการ "คิดถึงป่า" คงไม่บรรลุเป้าหมายหากขาดเขาคนนี้ กองบุญพี่ต้าและเหล่าอาสาสมัคร

"อยากให้ทุกคนได้ตระหนักและได้คิดบ้างว่าสภาพป่าที่แท้จริงของภูฝอยลมเป็นยังไง ทั้งที่เข้าใจกันมาตลอดว่าป่ามันสมบูรณ์แต่ไม่เคยขึ้นมาดูจริงๆ จึงต้องการเพิ่มพื้นที่ป่าให้อุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำ และด้วยความที่เป็นคนชอบทำกิจกรรมอาสาอยู่แล้วก็เลยชอบที่จะทำตรงนี้และยังได้พบเพื่อนใหม่ๆ เหล่าอาสาสมัครที่มีใจรักป่าเหมือนกัน ทำกิจกรรมเพื่อสังคมเหมือนกัน

ก็เลยปรึกษากับพี่เจ เจตริน ซึ่งมีปณิธานเดียวกัน ทำให้โครงการ "คิดถึงป่า" เกิดขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรมและจะดูแลป่าต่อไปเรื่อยๆ ป่าเป็นที่ผลิตลมหายใจของทุกคนเพราะฉะนั้นแล้วเราทุกคนต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน ช่วยกันดูแลและหวงแหนสิ่งที่เราหายใจร่วมกัน ต้นไม้คือชีวิต"

คลิ๊กดูภาพเพิ่มเติม

อัลบั้มภาพเหล่าอาสา"คิดถึงป่า"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook