หม่อมหลวงวัย 77 ปี ชีวิตตกอับ อยู่บ้านใกล้พังกับสามีพิการ

หม่อมหลวงวัย 77 ปี ชีวิตตกอับ อยู่บ้านใกล้พังกับสามีพิการ

หม่อมหลวงวัย 77 ปี ชีวิตตกอับ อยู่บ้านใกล้พังกับสามีพิการ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

(11 ก.ค.) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 รายงานว่า พบยายแต๋ว อายุ 77 ปี มีชื่อตามบัตรประชาชนคือ หม่อมหลวงจีระจันทร์ เกษมศรี ซึ่งแท้จริงมีศักดินาเป็นถึงหม่อมหลวง และเชื้อพระวงศ์ในสายรัชกาลที่ 5 

แต่ชีวิตกลับพลิกผันและตกอับ ต้องอาศัยอยู่ในบ้านเช่าเก่าซ่อมซ่อใกล้พัง กับสามีที่ป่วยอัมพฤกษ์และต่อมลูกหมากโตเดินไม่ได้ โดยบ้านเช่าหลังดังกล่าวเพื่อนบ้านให้อยู่ฟรี สภาพในบ้านไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกใดๆ มีเพียงโทรทัศน์และตู้เย็นเก่า เครื่องครัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และมีเพียงสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ล 2 ตัว ชื่อแตงกวา กับทาโร่ ไว้เป็นเพื่อนแก้เหงา

หม่อมหลวงจีระจันทร์ เล่าว่า เป็นลูกของ ม.ร.ว.จิราทิพย์ เกษมศรี และ นางมลุลี เกษมศรี ณ อยุธยา มีพี่น้องด้วยกัน 8 คน สมัยเด็กจำได้ว่าอาศัยอยู่ในซอยใจสมาน 2 ข้างซอยปรีดา ย่านนานาเหนือ นานาใต้ ก่อนจะย้ายมาซอยทองหล่อ 

ก่อนที่ครอบครัวจะลี้ภัยทางการเมืองมาอยู่ที่บ้านคลองปอม ต.ทุ่งลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อปีพ.ศ.2500 ขณะนั้นอายุได้ประมาณ 18 ปี และแต่งงานกับลูกท่านขุนคนหนึ่ง อยู่กินกันจนมีลูก 4 คน จากนั้นท่านพ่อท่านแม่ก็ย้ายไปอยู่อีกหลายแห่งในตำแหน่งแพทย์ตำบล ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ก่อนที่จะย้ายกลับมาที่กรุงเทพฯทั้งหมด ส่วนตนเองใช้ชีวิตอยู่ที่สงขลากับสามี

ต่อมาได้แยกทางกับสามีคนแรก และเริ่มใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป ก่อนที่จะมาได้สามีใหม่คือ นายรื่น ประทุมมณี หรือ ลุงรื่น ซึ่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้างและขับรถรับจ้างขนส่งสินค้าที่ปาดังเบซาร์ และอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.สะเดา มาถึงปัจจุบัน 

และชีวิตเริ่มลำบากหนักขึ้นเมื่อนายรื่น ล้มป่วยด้วยโรคอัมพฤกษ์เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมาไม่สามารถทำงานได้ ครอบครัวจึงลำบากเรื่อยมาเพราะตัวเองก็ไม่ได้มีอาชีพอะไร จนถึงปัจจุบันอาศัยเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 600 และเบี้ยคนพิการอีก 800 บาท รวมทั้งลูกสาวคนเดียวที่เหลืออยู่ส่งเสียมาให้บ้าง เพราะอีก 3 คนเสียชีวิตไปแล้ว 

หม่อมหลวงแต๋ว กล่าวว่า ตนทำใจยอมรับกับชะตาชีวิตที่เป็นอยู่ หลังจากที่ท่านพ่อเสียชีวิตก็แทบจะไม่ได้ติดต่อกับญาติพี่น้องที่กรุงเทพฯ อีกเลย มีเพียงหลานสาวคนเดียวที่อยู่หาดใหญ่ซึ่งยังพอติดต่อกันได้บ้าง แต่ก็ไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไรจากญาติพี่น้อง

ส่วนคำนำหน้าชื่อว่าหม่อมหลวง ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพียงแต่เมื่อไปติดต่อราชการหรือธนาคารก็มีคนสอบถามว่าเป็นหม่อมจริงหรือเปล่า เพราะหลายคนไม่เชื่อว่าหม่อมหลวงจะมาอยู่ในสภาพแบบนี้  

โดยในบั้นปลายของชีวิตไม่ต้องการกลับไปอยู่ที่กรุงเทพฯอีกแล้ว แม้จะมีน้องสาวอีก 2 คน เพราะขาดการติดต่อกันมานานไม่รู้จะไปเริ่มต้นยังไง แต่ขอแค่ให้มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ก็พอ เช่น เรื่องของที่อยู่อาศัย และปัจจัยยังชีพไม่ต้องลำบาก และไม่ปฏิเสธหากหน่วยงานใดหรือผู้ใจบุญจะช่วยเหลือ 

ส่วนลุงรื่นบอกว่าช่วงที่อยู่กินกับหม่อมแต๋ว ก็ไม่รู้ว่าเป็นถึงหม่อมหลวงมาทราบทีหลังเห็นจากบัตรประชาชน

ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก รายการเรื่องเล่าเช้านี้ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook