แอน ภูริ เล่านาทีประทับใจ อุ้ม น้องริชา น่ารักแก้มยุ้ยอวดสื่อ

หลังจากที่รอเห็นหน้าลูกสาวแก้มยุ้ยมานานเพราะกำหนดคลอดที่วางไว้ตั้งแต่แรกคือ 9 ก.ค. แต่ในที่สุดช่วงเช้าของวันที่ 14 ก.ค. "น้องริชา" เด็กหญิง ริชา หิรัญพฤกษ์ ก็ได้ออกมาลืมตาดูโลกด้วยวิธีผ่าคลอด ณ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท โดยมีน้ำหนักตัว 3445 กรัม ยาว 52 เซนติเมตร

ซึ่งล่าสุดบ่ายวันนี้ (16 ก.ค.) คุณพ่อคุณแม่ป้ายแดงคู่ใหม่ของวงการอย่าง "แอน อลิชา" และ "ภูริ หิรัญพฤกษ์" ก็ได้ถือโอกาสตั้งโต๊ะแถลงข่าวแนะนำ น้องริชา ลูกสาวตัวน้อยอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งเปิดใจถึงวินาทีสุดพิเศษของครอบครัวให้เราฟังว่า...

ความรู้สึกของคุณพ่อคุณแม่ป้ายแดงเป็นยังไงบ้าง ?
แอน - "ดีใจและก็แอบตกใจเพราะไม่ได้เป็นตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากเราอยากคลอดตามธรรมชาติให้ปวดตามธรรมชาติ แต่พออัลตร้าซาวด์หมอบอกว่าน้ำคล่ำแทบไม่เหลือแล้วให้ผ่าน้องออกมาดีกว่า ซึ่งตอนที่หมอบอกว่าผ่าก็ตกใจเพราะเราไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจสำหรับการผ่าตัดเลย ยอมรับค่ะว่ากลัว"

ภูริ - "เขากลัวมาครับ วันนั้นตอนกลางคืนผมก็พาเขาไปสวดมนต์ ส่วนตอนเช้าผมก็ซื้อพวงมาลัยและไปตักบาตรทำบุญให้เขา ให้กำลังใจเขาบอกว่าไม่เป็นอะไรไม่เจ็บหรอก"

ตอนที่เห็นลูกครั้งแรกรู้สึกยังไงบ้าง ?
ภูริ - "ช่วงแรกไม่ตื่นเต้นครับ แต่น้ำตาพอได้ยินเขาร้องไห้ผมก็ดีใจน้ำตาไหลเลย วินาทีนั้นที่เขาร้องอุแว้ออกมาดีใจมากครับ"

แอน - "สำหรับตัวแอนเองมันเป็นความรู้สึกที่บรรยาไม่ถูกจริงๆ น้ำตาไหลออกมาเองโดยธรรมชาติ พอถามภูริว่าลูกเป็นยังไง เขาก็บอกทันทีเลยว่า "ขาว ขาวมากคุณแอน" (หัวเราะ)"

ภูริ - "คือผมเห็นว่าเขาเป็นลูกผู้หญิงก็อยากให้เขาขาวเหมือนคุณแม่ วันที่จะคลอดตอนเช้าผมก็ไปไหว้ขอพรให้ตอนคลอดคุณแม่ปลอดภัย และถ้าขาวได้ก็ขอให้ขาวเหมือนคุณแม่ด้วยละกัน (หัวเราะ)

เท่าที่สังเกตุน้องริชาหน้าเหมือนใคร ?
ภูริ - "ผมคิดว่าช่วงปากกับจมูกเหมือนพ่อนะ แต่ผิวกับหน้าเหมือนคุณแม่ ตัวใหญ่ด้วย คุณหมอเองก็บอกว่าเขาแข็งแรงมาก ร้องเสียงดังมากเลย ร้องไม่หยุดเป็นชั่วโมงๆ เลยกว่าจะหยุด"

ต้องปรับตัวกันยังไงบ้างตอนนี้เป็นคุณพ่อคุณแม่แล้ว ?
แอน - "ถามว่าปรับตัวหรือยัง เอ่อ...เอาตรงๆ วันแรกๆ แอนยังนะคะเนื่องจากตอนนั้นยังมึนๆ ยา ตอนนี้ก็พยายามดูแลอยู่ แต่เหมือนเขาจะเอาพ่ออย่างเดียว เพราะวันแรกๆ ที่เขาคลอดคุณพ่อจะเป็นคนดูแลลูกมากกว่าแอน ถ้าแอนอุ้มเขาจะร้อง ถ้าพ่ออุ้มเขาจะเงียบ เมื่อเช้าแอนร้องไห้เลยทำให้ลูกหยุดร้องไม่ได้ (หัวเราะ)"

ตั้งใจจะเลี้ยงน้องเองเลยไหม ?
แอน - "ตั้งใจว่าจะเลี้ยงเองค่ะ แต่ก็มีคุณตาคุณย่าคนในครอบครัวช่วยดูแลด้วยเหมือนกัน"

ชื่อของน้องความหมายว่าอะไร ?
ภูริ - "ชื่อของน้องริชา ตอนนี้ก็คือได้มาจากชื่อเราสองคนรวมกัน ซึ่งเพื่อนก็บอกมาด้วยว่าความหมายดีมากๆ ในภาษาฮินดูเพราะแปลว่า "ผู้ที่มีพระเจ้าคุ้มครอง" อีกอย่างพอนำมาบวกในศาสตร์ตัวเลขก็ดีมากๆ เพราะจะช่วยในเรื่องคนรัก ความเจริญก้าวหน้าในชีวิต"

เห่อลูกกันเลยไหมเพราะเราสองคนก็รอมานาน ?
ภูริ - "ก็เห่อนะ เห่อมากด้วย"

แอน - "เขาเห่อจริง แต่เขาก็เก่งด้วย เพราะเขาสามารถดูแลลูกได้ ทำให้ลูกหลับได้ เอาลูกไปจู๋จี๋กันสองคน เมื่อเช้าแอนก็เสียใจไปแล้ว (หัวเราะ) คือเขาร้องจนเอาไม่อยู่ จนต้องให้คุณพ่อเขามาพันผ้าถึงจะหยุด ส่วนแอนก็นั่งน้ำตาไหลทำลูกไม่เอาเลย (หัวเราะ)"

ภูริ - "แต่สุดท้ายเขาก็มานอนกับคุณแม่นะ (ยิ้ม)"

ตั้งใจจะออกจากโรงพยาบาลกันวันที่เท่าไหร่ ?
แอน - "คุณหมออนุญาตให้กลับวันอาทิตย์นี้แล้วค่ะ แต่แอนอาจจะอยู่อีกนิดหนึ่งเพราะว่ายังแพ้และก็ยังไม่ได้เรียนอาบน้ำน้องเลย คงต้องอยู่ฝึกกันก่อน"

ของขวัญรับขวัญหลานตอนนี้เยอะเลยไหม ?
ภูริ - "ของขวัญรับขวัญหลานยังไม่ได้แกะเลยครับ แต่ต้องขอบคุณทุกคนมากๆ เลยนะที่เอ็นดูน้องริชา"

คุณพ่อหวงลูกสาวไหมคนแรกด้วยแบบนี้ ?
ภูริ - "ก็หวงครับ เป็นลูกสาวด้วย คิดไว้เหมือนกันว่าจะไว้หนวดแล้ว (หัวเราะ) จริงๆ ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ก็คงสอนเขาตามปกติแหละว่าจะต้องดูแลตัวเองยังไง"

ตั้งใจจะมีคนที่สองเลยหรือเปล่าจากนี้ ?
ภูริ - "ตอนแรกก็คิดว่าจะมีอีกคนเลยครับ แต่เอาไว้ก่อนดีกว่าช่วงนี้น่าจะเหนื่อยกัน"

แอน - "ภูริเขาอยากให้ริชามีน้องค่ะ จะได้มีเพื่อนเล่น จะได้มีคนให้ปรึกษากัน"

เห็นว่าเพื่อนๆ แก๊งนางฟ้าก็มาเยี่ยมหลานแล้วด้วย ?
ภูริ - "เพื่อนๆ ก็แวะเวียนกันมาตลอด อย่างแก๊งนางฟ้าก็มากันช่วงแรกๆ เลย ตั้งแต่เขายังไม่ออกมาซะอีก น่าจะได้เห็นลูกก่อนแอนด้วย เพราะช่วงคลอดแอนได้เห็นนิดเดียว"

ต้องพักงานไปเลยไหมเพื่อดูแลน้อง ?
แอน - "จากนี้ก็คงทำรายการอย่างเดียว แต่คงพักงานก่อนสัก 2-3 เดือน เนื่องจากแอนผ่าคลอดมันก็อาจจะต้องใช้เวลาในการพักฟื้นร่างกายให้ทุกอย่างลงตัวด้วย"

ภูริ - "จริงๆ ช่วงนี้ผมยังมีคิวถ่ายละครอยู่ครับ แต่ก็น่ามีเวลาดูแลเขาอยู่เหมือนกัน"

ชีวิตหลังมีลูกเปลี่ยนไปเลยไหมหลังมีลูก ?
ภูริ - "ชีวิตเปลี่ยนไม่รู้นะว่ายังไง แต่ความรู้สึกเปลี่ยนมากกว่า แค่ลงทาแถลงข่าวตอนนี้ก็คิดถึงเขาแล้ว ถามว่าหวงเขนไหม เอ่อ...น่าจะเป็นแค่ช่วงแรกๆ มากกว่า แต่พอถึงช่วงที่เขาโตก็คงต้องปล่อยให้เขาได้ลุยๆ เต็มที่เหมือนเราสองคน"