บุ๋ม รับไม่ได้!! ข้อเสนอ เจนี่ ต้องแถลงขอบคุณและขอโทษ

บุ๋ม รับไม่ได้!! ข้อเสนอ เจนี่ ต้องแถลงขอบคุณและขอโทษ

บุ๋ม รับไม่ได้!! ข้อเสนอ เจนี่ ต้องแถลงขอบคุณและขอโทษ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

บอกได้เลยว่าจบยาก!! สำหรับสองซุป'ตาร์ "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" และ "บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี" กับกรณีดราม่าแย่งพื้นที่จอดรถของลูกค้าที่มาใช้บริการ "911 by JT" และ "Smash Gym" ก่อนจะกลายเป็นเรื่องราวแซ่บๆ ในวงการธรุกิจคนดัง

โดยล่าสุดทางด้านของนักแสดงสาวรุ่นใหญ่ได้ออกมาเปิดเผยด้วยความรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างยิ่งว่า ณ ตอนนี้ปัญหาดังกล่าวก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะจบ เพราะถึงแม้อีกฝ่ายจะยินยอมจ่ายเงินให้ 3,000,000 บาท ตามที่รับปากไว้ แต่ก็ยังมีข้อเสนอตามมาอีกจำนวน 8 ข้อใหญ่ๆ และหนึ่งในนั้นก็คือการให้ตน ออกมาแถลงข่าวขอบคุณและขอโทษผ่านสื่อถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ซึ่งสาวบุ๋มถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่แฟร์และรับไม่ได้เป็นอย่างยิ่ง

พร้อมออกปากว่าหากอีกฝ่ายยังนับถือตนเป็นพี่น้องจริง ก็อยากให้หันหน้ามาคุยจะดีกว่าส่งทนายมาเป็นตัวแทน ซึ่งตนเชื่อว่าหากทำแบบนั้นจะยิ่งส่งผลให้ทุกอย่างบานปลาย ก่อนทิ้งท้ายที่ผ่านมาไม่เคยคิดจะให้สัมภาษณ์ออกสื่อ แต่เนื่องจากเป็นประเด็นที่ผู้สื่อข่าวอยากรู้ตนจึงต้องจำใจพูดเท่าที่พูดได้ เพราะที่ผ่านมาก็ถอยเต็มที่แล้ว...

ทริปเที่ยวพักผ่อนล่าสุดเป็นยังไงบ้าง ?
"ก็...ต้องขอเวลาพักผ่อนให้ตัวเองบ้างอ่ะนะคะ เพราะถ้าเรายังเห็นแต่สิ่งเดิมๆ ภาพเดิมๆ เราก็จะต้องเครียดอยู่เหมือนเดิม ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องถอยออกมาบ้าง ถอยออกมามีความสุขกับตัวเอง อยู่กับคนที่เรารัก น่าจะดีกว่าค่ะ"

พอได้ไปเที่ยวแล้วเรื่องที่เราเคยเครียดต่างๆ มันเบาขึ้นไหม ?
"เบาขึ้นเยอะเลยค่ะ เพราะถ้าเรายังสู้กับปัญหาต่อไปคือมันก็ยังอยู่แค่นั้น ตอนนี้สำคัญที่ตัวเรามากกว่าว่าเราจะเดินต่อไปยังไง ซึ่งจากนี้การเดินด้วยสติสำคัญที่สุด"

ปัญหาเรื่องฟิตเนสตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
"ยังเหมือนเดิมค่ะ ยังแก้ปัญหาไม่ได้ เหมือนเดิม"

ที่ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายมีการออกมาแถลงข่าวว่ายินดีจ่ายเงินชดเชย 3,000,000 บาท ?
"เอ่อ...พี่ต้องถามก่อนว่าเป็น 3,000,000 แบบไหน ถ้าเกิดเป็นแบบที่พี่เคยพูดไปและเขาจ่ายมาเลย มันก็อาจจะง่ายกว่านั้น แต่ ณ วันนี้ไม่ได้เป็นแค่ 3,000,000 บาท เฉยๆ เพราะเขายังมีข้อแม้อีกเยอะ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการให้พี่แถลงข่าวขอบคุณและขอโทษเขา"

สรุปตอนนี้เรื่องเงิน 3,000,000 บาท ก็คือเรายังไม่ได้รับเลยแม้แต่บาทเดียว ?
"ยังไม่ได้เงินค่ะ"

จริงๆ มีรายละเอียดมากกว่าหรือเปล่า ?
"ทางเขาก็ให้ทนายเป็นคนพูด ซึ่งตอนแรกพี่ก็เชื่อในสิ่งที่เขาเคยพูดนะว่าเราเป็นพี่เป็นน้องกัน พี่ก็เลยบอกกับเขาไปว่า "ไหนๆ ตอนเริ่มเราก็เริ่มมาด้วยกันแล้ว มันน่าจะคุยกันได้ไหม คุยกันสักนิดหนึ่ง" แต่เขาก็ยังยืนวันว่าให้คุยผ่านทางทนาย ซึ่งพอเขายืนยันมาแบบนั้นพี่ก็ต้องให้เขาคุยผ่านทนายฝั่งพี่เหมือนกัน และนั่นก็คือคุยกันไม่ได้"

แสดงว่าที่เรายังติดอยู่ตอนนี้ก็คือเรารับข้อเสนอจากฝั่งนั้นไม่ได้ ?
"ตั้ง 8 ข้อนะลูก คือถ้าเป็นสัญญาเก่ามันก็ไม่มีค่าส่วนกลาง แต่เขาก็จะเก็บด้วย ตกลงจะเอาทั้งสัญญาเก่า สัญญาใหม่มาใช้กับพี่เหรอ มันแฟร์กับพี่ไหม คือพี่ต้องการความแฟร์ คุยกันตรงๆ จะได้เคลียร์ให้จบไป เพราะพี่เองก็ไม่อยากยุ่งหรือเจอปัญหาอะไรอีกแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าเอานี่ด้วย นี่ด้วย นี่ด้วย คือใครรับไหวบ้างล่ะคะ"

ทางเราได้มีการส่งข้อแม้อื่นๆ กลับไปให้เขาบ้างไหม ?
"ไม่มีหรอกนะ มีแต่แค่ไม่รับ เพราะที่ผ่านมาเรารับมาเยอะมากพอแล้ว และแม้กระทั่งหลายๆ อย่างที่เขาพูด ทั้งอาหารคลีน ทั้งซูมบ้า เราเองก็มีหลักฐานหมดว่ามันไม่ใช่ แต่เขาไม่ฟังแล้วไง เขาจะหาว่าเราผิดสัญญา โอเคถ้าจะกล่าวหาพี่แบบนั้นก็ตามใจ แต่ ณ ตอนนี้จะให้พี่สู้อะไรเหรอ พี่ไม่สู้แล้ว พี่ขอถอยออกมาแล้วทำให้มันจบๆ ดีกว่า จะให้มานั่งทะเลาะกันแบบนี้ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ"

ส่วนตัวพี่บุ๋มคิดว่าข้อเสนอแบบไหนถึงจะแฟร์และสามารถทำให้เรื่องมันจบลงได้ ?
"เปิดอกคุยกันตรงๆ พี่คิดว่าแบบนั้นน่าจะจบง่ายสุด"

แต่เหมือนฝั่งนั้นเขาก็ไม่ยอมคุยแบบนี้จะยิ่งทำให้เดินหน้าไม่ได้ไหม ?
"อย่างนั้นก็อย่าพูดสิว่ายังนับถือกันอยู่"

ถือว่าเป็นการตัดพี่ตัดน้องเลยไหม ?
"พี่ไม่ตัดหรอก พี่รักเขา ทุกคนที่อยู่ในวงการก็รู้ว่าพี่เป็นคนยังไง"

สมมุติว่าถ้าหากทุกอย่างยังดำเนินต่อไปแบบนี้ พี่บุ๋มคิดว่าเรื่องมันจะจบยังไง ?
"นั่นนะสิ"

แสดงว่าตอนนี้พี่บุ๋มก็ยังจะต้องใช้พื้นที่ตรงนั้นอยู่ ?
"มันต้องอยู่สิเพราะในเมื่อพี่เป็นผู้ก่อสร้าง พี่เป็นมากกว่าผู้เช่า แต่ ณ ตอนนี้ในส่วนของการทำงาน แค่พี่อ้าปากพูดก็ภาพพี่ก็ดูแรงแล้ว กลายเป็นว่าพี่ดูแรงทั้งๆ ที่ไม่กล้าพูดอะไรมากกว่านี้เลย"

ในส่วนของการชำระค่าเช่า ณ ตอนนี้ได้มีการจ่ายไปบ้างหรือยัง ?
"มันต้องตกลงสัญญาทุกอย่างให้ได้ก่อนค่ะ คือถ้าคุณจะมาอ้างกับพี่เรื่องสัญญเก่า ทั้งๆ ที่คุณเดินมาบอกกับพี่ว่าสัญญาเก่าโมฆะ ตกลงแล้วเราเชื่ออะไรคุณได้มั่ง"

สุดท้ายพี่บุ๋มก็ยังมีจุดยืนของเราอยู่ ?
"มันต้องสู้แล้วค่ะ สู้ในความถูกต้องให้ได้มากที่สุด เพราะที่ผ่านมาเรายอมเขามาเยอะแล้ว และก็ควรจะพอได้แล้ว"

แต่ล่าสุดก็มีข่าวว่าเราได้สถานที่สำหรับจะสร้างฟิตเนสใหม่แล้ว เป็นที่ตรงข้ามกับของเขาเลย ?
"ไม่จริงเหรอก ฝั่งตรงข้ามเป็นสี่แยกนะคะ ใครเม้าท์ เม้าท์ไม่รู้เรื่อง ตอนนี้พี่ก็กำลังหาที่อยู่ แถมเรื่องเก่าก็ยังไม่เคลียร์ เงินลงทุนไปกำไรก็ยังไม่ได้กลับมา จู่ๆ จะให้พี่ไปเอาที่ตรงนั้นตรงนี้มันไม่ได้หรอก ทุกอย่างมันต้องค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไปค่ะ ถามกลับว่าพี่อยากที่จะตื้ออยู่ไหม เหรอ...ดูหน้าพี่สิ ดูการร้องไห้พี่สิ พี่ไม่ได้อยากจะตื้อหรอก แต่จะให้ไปอยู่ตรงไหนล่ะ ทุกอย่างเป็นเรื่องของการขยับตัวและเงินทั้งนั้นเลย ถ้าหากเขามาคุยกับพี่ดีๆ พี่ก็จะยอมคุยกับเขานะ แต่นี่ไม่ไง และในเมื่อเขาไม่ยอมคุยพี่ก็โอเคไม่คุยก็ไม่คุย แต่คุณอย่าไปบอกกับคนอื่นว่าเราคุยกันได้ อย่าบอกแบบนั้น"

สมมุติวันหนึ่งถ้าเรื่องมันยืดเยื้อไม่จบเราจะยอมเสียเงิน 3,000,000 บาท ไปเลยไหม ?
"ใจจริงพี่กะยอมเสีย 3,000,000 บาท และทุบตึกทิ้งไปเลยด้วยซ้ำ คือเงินซื้อทุกคนไม่ได้นะ เงินซื้อศักดิ์ศรีคนไม่ได้นะ จริงอยู่วันที่แถลงข่าวพี่พูดว่า 3,000,000 บาทแล้วจบ แต่คุณเล่นมาบอกให้พี่แถลงข่าวขอโทษและขอบคุณที่ได้เงินจากคุณเนี่ย"

ตามกฎหมายพี่บุ๋มมีสิทธิ์ทุบตึกนั้นไหม ?
"ไม่รู้ แต่พี่ก็คิดนะว่าการทำแบบนั้นมันมีแต่ความรุนแรง และมันก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอย่างแท้จริง พี่ถึงได้ยังยืนยันไงว่าทำไมเราไม่มาคุยกันดีๆ ซึ่งทุกครั้งที่บุ๋มออกมาให้สัมภาษณ์สื่อในเรื่องนี้ บุ๋มถามหน่อยว่าบุ๋มสามารถปฏิเสธการสัมภาษณ์ได้ไหม บุ๋มพูดตรงๆ เลยว่าบุ๋มปฏิเสธไม่ได้ บุ๋มไม่สามารถพูดได้หรอกว่าบุ๋มไม่มาให้สื่อสัมภาษณ์นะคะ แต่ในเมื่อบุ๋มต้องพูด บุ๋มก็พูดได้แค่ว่ามันอยู่ในขั้นตอนการเจรจาของทนาย บุ๋มทำได้แค่นี้เอง"

กลัวไหมว่าสุดท้ายเรื่องราวมันจะยืดเยื้อไปถึงการฟ้องร้องในชั้นศาล ?
"หวังว่าไม่นะคะ แต่วันนี้บุ๋มก็เพิ่งได้รับจดหมายจากทนายฝั่งนั้นมา ประมาณว่าบุ๋มผิดสัญญากับเขา และก็ให้เราออก ทั้งๆ ที่เราเป็นคนถามสัญญาจากเขามาโดยตลอด บุ๋มถึงได้บอกไงคะว่านี่คือสิ่งที่เจ็บ"

ที่เขาส่งมาล่าสุดเป็นการสั่งให้ออกเลย ?
"ค่ะ"

แล้วแบบนี้เราจะสู้เขายังไง ?
"ในสัญญาเป็นแบบนั้นก็จริง แต่ในแง่ของกฎหมายพี่คือผู้ลงทุนค่ะ ดังนั้นเราต้องสู้ในแง่ของผู้ลงทุน แต่ถามว่าพี่จะสู้ไหมพี่ไม่มีแรงจะสู้แล้วค่ะ พี่ขอให้มันจบง่ายๆ ดีกว่า พี่อยากเดินไปข้างหน้าทำของพี่ดีกว่าค่ะ"

ที่เราบอกว่าจบง่ายๆ คือจบแบบไหน ?
"จบง่ายๆ คือหาที่ใหม่ให้ได้ค่ะ หรืออาจจะยังไงก็ต้องแล้วแต่ทางทนายเขาตกลงกันว่าได้หรือไม่ได้ เพราะอย่างน้อยค่าโครงสร้างมันก็มีหลักฐานอยู่ว่าเราจ่ายไปแล้ว"

แต่ไม่ว่ายังไงเราก็จะไม่ยอมรับข้อเสนอที่เขาอยากให้ออกมาแถลงขอโทษและขอบคุณ ?
"ถามเสียงประชาชนก่อนไหม ประชาชนอยากฟังไหม พี่ทำได้ทุกอย่างหากทำให้เรื่องมันจบ แต่เราต้องแถลงข่าวคู่กันค่ะ"

อยากบอกอะไรเขาไหมเพราะไหนๆ ก็ไม่คุยกันเลย ?
"ก็ไม่รู้จะบอกอะไรแล้วมั้ง เพราะทุกครั้งที่พี่ให้สัมภาษณ์แบบนี้ไม่เกิน 5 นาที ทนายความเขาก็จะโทรมา ดังนั้นให้พี่พูดอะไรเหรอ"

เหมือนตอนแรกพี่บุ๋มก็เคยบอกประมาณว่าฝั่งนั้นขอไม่ให้เราออกมาสัมภาษณ์อีก ?
"ก็นี่ไง พี่ถึงได้บอกไงคะว่าเจนี่ไม่ให้พี่พูดออกสื่อ แต่พวกคุณก็ลากดิฉันมายืนอยู่ตรงนี้แล้วจะให้ดิฉันทำยังไง ถ้าไม่ออกมาสื่อก็ด่า หรือถ้าออกมาเจนี่ก็ด่า บุ๋มอยู่ในสถานการณ์ไหนเหรอ"

แสดงว่าทุกวันนี้เราก็อึดอัดพอสมควร ?
"มากค่ะ พี่ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว แต่ถามว่าพี่ต้องกลัวไหม คือมันก็ไม่รู้จะกลัวอะไรแล้ว มันหมดแล้ว บุ๋มถอยสุดประตูแล้วนะ จะเอาอะไรจากบุ๋มเหรอ"

หลังจากนี้เราจะลองหยุดไปเลย ไม่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกเลยไหม ?
"สื่อยอมไหม พี่ถามสื่อดีกว่าสื่อยอมไหม"

เครดิตภาพประกอบจาก Instagram @janienineeleven

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ บุ๋ม รับไม่ได้!! ข้อเสนอ เจนี่ ต้องแถลงขอบคุณและขอโทษ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook