ชาคริต ปรับตัวรอวันเหมือนเดิม! ยันยังรักและต้องการ วุ้นเส้น เสมอ

ยอมรับว่าเกิดปัญหาระหว่างครอบครัวขึ้น สำหรับนักแสดงหนุ่ม "ชาคริต แย้มนาม" กับภรรยาสาว "วุ้นเส้น วิริฒิพา" ซึ่งก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า กำลังอยู่ในช่วงปรับจูนเข้าหากัน และประคับประคองให้ความรักของทั้งคู่สมบูรณ์แบบโดยมีความสุขที่สุด ซึ่งดูเหมือนปัญหาที่ทั้งคู่พบเจอจะยังผ่านไปไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์

ล่าสุด พอมีโอกาสเจอ ชาคริต แย้มนาม จึงไม่พลาดที่จะสอบถามถึงข้อเท็จ โดยงานนี้เจ้าตัวได้เผยว่า อยากให้ทุกคนที่ติดตามหยุดมโนอะไรไปไกลกว่านี้ และตนไม่ขอพูดถึงเรื่องครอบครัวมาก เพราะมันเป็นเรื่องเซนซิทีฟ แต่ยืนยันว่ายังรักและต้องการวุ้นเส้นเสมอ พร้อมปรับตัวเข้าหากันให้ได้มากที่สุด และเชื่อว่าท้ายที่สุดหากทั้งคู่ยังรักกันก็จะสามารถผ่านปัญหานี้ไปได้ด้วยดี

ปัญหากับวุ้นเส้นที่เกิดขึ้นคืออะไร?
"มันก็คงเรื่องเดิมครับ อย่างที่พูดเป็นกลางตลอดว่าทุกคู่แหละมีทั้งสุข ทั้งปัญหา สำหรับผมก็ค่อนข้างโอแฟชั่นนะ เพราะค่อนข้างรู้จักกันมานาน ไม่ต้องพูดเยอะว่าส่วนตัวผมเป็นคนยังไง ผมเป็นคนเต็มที่ สำหรับความรักพอเป็นการแต่งงานมีคู่ครอง เป็นเรื่องที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับผม ปัญหามันมีทุกบ้าน การที่เรารักกัน ตัดสินใจแต่งงานกัน ก็เพื่อที่เราจะได้ดูแลซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นเราก็ต้องทำทุกอย่างให้มันดีขึ้น ไม่ว่าจะมีปัญหาเรื่องเวลา เรื่องงานที่มันเยอะเข้ามา หรือของผมที่มีคุณแม่เรื่องสุขภาพที่ต้องคอยดูแล ซึ่งผมก็ต้องโฟกัสหลายอย่าง ด้วยความที่ผมกับวุ้นรักกัน เราก็พยายามทำทุกอย่างให้มันดีอยู่แล้ว"

สาเหตุหลักคืออะไร?
"ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องงี่เง่า แต่ผมไม่ได้ซีเรียตอะไร คืออย่างที่วุ้นบอกว่าทั้งคู่ทำงานเหนื่อย เราเองก็ต้องการทุกอย่าง ซึ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นจากสาเหตุความรัก ที่บางครั้งเราคงต้องการความรักมากซึ่งกันและกัน ทั้งๆ ที่เหนื่อยด้วยกันทั้งคู่ เวลาเราก็ไม่ตรงกัน ทุกอย่างที่เกิดคือด้วยความรักแต่ไม่ใช่ใครจะมีเจตนาร้ายอะไร แต่เราก็ทำให้มันดีที่สุดเพราะเราเองก็รักกัน"

เป็นปัญหาที่สะสมมานาน ถ้าแก้ได้ก็ไปต่อได้ใช่ไหม?
"มันคงไม่ใช่ผมคนเดียว ถ้าตบมือข้างเดียวก็คงไม่ดัง คนเราอยู่ด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำคนเดียวไม่ได้ เป็นเรื่องปกติ"

ดูเป็นปัญหาใหญ่รึเปล่า?
"มันไม่เคยเป็นหลายครั้ง ผมไม่รู้ว่าตีความกันไปยังไง แต่ว่าเท่าที่รู้จักผมมา ผมก็เหมือนเดิม ไม่ค่อยนั่งพูดเรื่องส่วนตัวอะไรมากนัก เพราะว่าเวลาเป็นเรื่องที่บ่งบอกเอง เราเองก็อยู่กันมานานหลาย 10 ปี น่าจะเข้าใจผมอยู่"

ถึงขั้นแยกห้องแยกบ้านกันเลยหรือเปล่า?
"มันก็ด้วยงาน ด้วยเวลาที่ไม่ตรงกัน แล้วเวลาพักผ่อนก็ต้องการพักผ่อนให้เต็มที่ อีกอย่างตอนนี้ผมมีคุณแม่ที่ต้องคอยดูแล เวลาผมทำอะไรก็ต้องถนอมน้ำใจ จิตใจของเขานิดนึง เพราะอะไรที่มันกระทบมันค่อนข้างเสี่ยงกับการสูญเสีย เพราะฉะนั้นก็อย่าเพิ่งมโนกันไปเยอะ ให้มันไว้ตรงนี้ดีกว่า เพราะว่าหลายคนที่เขาเป็นห่วง เขามาพูดแต่ว่าพอกระทบถึงแม่ผม โอ๊ยหยุดไว้ตรงนี้ดีกว่า เพราะมันค่อนข้างละเอียดอ่อน"

เรียกว่ามันเป็นปัญหาหนักไหม?
"ไม่หรอก มันเป็นเรื่องเวลา อย่างที่บอกเราก็เต็มที่ คือเราต้องการให้มันดีขึ้น เดี๋ยวก็แพลนว่าจะไปเที่ยวกัน ซึ่งจริงๆ ก็เห็นว่าเที่ยวด้วยกันตลอด มันก็โอเค การพูดอะไรเยอะก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่ดี เพราะบางทีคนก็ตีความกันไปต่างๆ นานาๆ สำหรับผมเองตอนนี้ ขอโฟกัสเรื่องงาน แล้วก็ต้องดูแลทุกอย่าง เพราะหลายอย่างค่อนข้างเซนซีทีฟ ผมไม่อยากให้อะไรมากระทบคุณแม่ด้วย"

ต้องปรับจูนอะไรเยอะไหม?
"โอ๊ย ไม่เยอะหรอก คนเราถ้าอยากอยู่ด้วยกัน แล้วอยากที่จะไปต่อ คือปัญหามันมีทุกครอบครัว แต่ตราบใดที่รักกัน เราอายุขนาดนี้จะมานั่งทำอะไรบ้าบอคงเป็นไปไม่ได้แล้วแหละ แล้วผมเองก็เป็นคนรับผิดชอบงานทุกอย่าง ไม่ต้องมานั่งพูดอะไร"

เราคิดว่าจะปรับจูนกันได้ไหม?
"ก็ทำอยู่ทั้งคู่ ก็หวังให้ทุกอย่างมันดี เป็นเรื่องสำคัญนะ เพราะเขาเป็นคู่ครองของเรานะ เราเองก็ต้องการทำให้มันดีที่สุด เพราะสิ่งที่เราตัดสินใจตั้งแต่วันแรกมันเป็นเรื่องของเราสองคน อยู่ที่เราสองคนว่าจะทำมันไปได้ตลอดรอดฝั่งรึเปล่า"

จะหาเวลาปรับกันไหม?
"คนเรารักกันถ้ามีความเข้าใจทุกอย่างก็จะผ่านมันไปได้ด้วยดี จริงๆ แล้วผมไม่ซีเรียต"

ยืนยันว่ารักกันดีอยู่?
"คือเราต้องการโฟกัสทุกอย่าง คือมันต้องการให้ดีขึ้นอยู่แล้ว ถ้ามันไปได้ตลอดลอดฝั่งก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีและเป็นสิ่งที่สวยงามที่สุด แต่ถ้ามันไปไม่ได้จริงๆ ก็คงเป็นเรื่องเศร้า แต่ชีวิตคนเราก็ต้องมูฟออนต่อไป เพราะคนอื่นที่อยู่ข้างหลังเราจะเดือดร้อน"

จริงๆ เหนื่อยไหม?
"ผมไม่มีเวลาที่จะมาเหนื่อยกับอะไร คือตอนนี้ปรึกษาใครผมยังปรึกษาไม่ได้ ต้องดูแลตัดสินใจด้วยตัวเอง เพราะว่าตอนนี้ทั้งงาน ครอบครัวค่อนข้างเซนซีทีฟเปลี่ยนเรื่องเถอะคุยแค่นี้พอ"

คือพี่คริตก็เป็นแบบนี้ตลอด?
"ผมเป็นคนรักเดียวใจเดียว ผมต้องการเขาตลอดเวลา"

สถานะตอนนี้เรียกว่าอยู่ในช่วงประคับประคองได้ไหม?
"ก็ดี เดี๋ยวก็ไปเที่ยวต่างประเทศ ถ้ามีเวลาก็ไป"

ยืนยันว่าขาเตียงแข็งแรงดี?
"มันก็ต้องอยากให้แข็งแรงสิ"

วุ้นให้สัมภาษณ์บอกว่า กลัวอนาคตจะไม่เหมือนเดิม?
"มันอยู่ที่เจตนา ผมไม่รู้ อันนี้ผมตอบไม่ได้ ผมเองก็ต้องเต็มที่ในแบบของผม ผมยังรักวุ้น"

กลับมาอยู่บ้านเดียวกันแล้วใช่ไหม?
"กลับสิ เราเจอกันอยู่แล้ว ถ้าไม่เจอกันก็แปลก บอกเลยว่าขอแล้วกัน ไม่อยากให้กระทบกับที่บ้านเยอะ"

อยากบอกอะไรคนที่เป็นกำลังใจให้?
"ก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ เพราะผมเองก็ค่อนข้างทำอะไรเด็ดเดียวมาตลอด"

ปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบการมีลูกไหม?
"ยังไม่ใช่ตอนนี้ครับ ยังไม่ล้มเลิกครับ มันก็ต้องคิดเยอะด้วยสังคมสถานการณ์โลกก็ต้องคิดหลายอย่าง ตอนนี้เอาเป็นสเต็ปบายสเต็ปดีกว่า"