“รักเด็ก” ไม่ผิด ไม่ติดคดีพรากผู้เยาว์หรือเปล่า?
มีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่ายกาย ถ้อยเพลงแฝงนัยยะความสัมพันธ์เชิงชู้สาวของหนุ่มรุ่นใหญ่กับสาวรุ่นลูกดูแล้วน่ารักดี แต่อาจจะมีหายนะตามมาก็เป็นได้
ก่อนความรักจะบังเกิดและเลยเถิดเป็นความสัมพันธ์ การคบหาดูใจกับสาววัยเด็กอาจมีปัญหาหรือกลายเป็นอุปสรรคโดยเฉพาะเด็กสาวที่ต่ำกว่าอายุ 18 ปีบริบูรณ์ ซึ่งกฎหมายไทยได้คุ้มครองไว้อย่างชัดเจน
เนื่องจากว่าเด็กสาวยังไม่โตพอที่จะมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจอาจถูกล่อลวงได้โดยง่าย หรือ ถูกหลอกล่อจากผู้มากประสบการณ์ ถึงแม้ว่าคุณผู้ชายจะรักเด็กมากเพียงใด และแม้ว่าเด็กสาวจะรักคุณมากขนาดไหน... ความรักที่เกิดขึ้นอาจเข้าข่ายคดีพรากผู้เยาว์ก็เป็นได้
หลายคนยังสับสนและยังไม่กระจ่างกับคำว่า "พรากผู้เยาว์" โดยส่วนใหญ่คิดว่า การมีเพศสัมพันธ์กับเด็กที่ต่ำกว่าอายุ 18 ปีบริบูรณ์เท่านั้นถึงจะผิด แต่ในความเป็นจริงแล้วเพียงแค่คุณโทรชวนเด็กสาวออกมาจากบ้าน โดยที่พ่อแม่ไม่รับรู้เท่านี้คุณก็เข้าข่ายความผิดแล้ว
"พรากผู้เยาว์คือการนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปจากพ่อแม่ โดยไม่ได้รับอนุญาตและมีเจตนาส่อพาไปทำอนาจาร หรือ ล่วงละเมิดทางเพศถึงแม้ว่าฝ่ายหญิงจะยินยอมก็ตาม ซึ่งการกระทำที่ส่อเข้าข่ายความผิด เช่น แค่โทรชวนออกจากบ้านพาไปลวนลามก็เข้าข่ายความผิดแล้ว แต่ถ้าโทรชวนไปดูหนังทำกิจกรรมต่างๆ โดยไม่เจตนาจะรวมลามหรือทำอนาจารอันนี้ก็ไม่ผิด ส่วนการจับมือถือแขนกันสามารถตีความได้หลายความหมายไม่ขอฟันธงว่าผิดไม่ผิด แต่หลักๆที่ผิดชัดเจนคือมีเพศสัมพันธ์กัน" ทนายวิรัชกล่าว
แต่ถ้าหากว่าฝ่ายหญิงสมยอม แต่พ่อแม่กลับไปแจ้งความมีความผิดหรือไม่
"มีความผิดทั้งหมดหากเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ว่าจะยอมหรือไม่ยอมหากมีเพศสัมพันธ์ผิดหมด" ทนายวิรัชกล่าว
เคยมีเหตุการณ์ญาตินำเด็กหญิงไปล่อลวงให้ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์ด้วย แล้วขู่แบล็กเมล์เรียกเงิน กรณีนี้ผู้ชายมีความผิดฐานพรากผู้เยาว์หรือไม่ มาดูกัน
"การนำสืบเจตนาอาจมีการตีความได้ยาก แต่ในท้ายที่สุดเราก็มีความผิดได้ แม้ว่าเค้าจะยั่วยวนและเรารู้ว่าเค้าอายุต่ำกว่า 18 ปี ก็ไม่ควรทำ ไม่ว่าจะโดนล่อหลอกเพียงใด เมื่อรู้ว่าเด็กก็ไม่ควรทำอย่างยิ่ง แต่ถ้าเป็นมิจฉาชีพล่อลวงข่มขู่แบล็กเมล์ก็ต้องพิสูจน์กันอีกที
โดยส่วนใหญ่คดีแบบนี้ไม่ค่อยมีเกิดขึ้นเนื่องจากจะมีการตกลงไกล่เกลี่ยกันเพื่อไม่ให้เป็นคดีความ หากเป็นคดีกันขึ้นมาไม่สามารถยอมความได้ต้องรับโทษอาญา ส่วนมากจึงยินยอมที่จะไกล่เกลี่ยค่าเสียหาย" ทนายวิรัชกล่าว
คราวนี้มาดูความผิดคดีฐานพรากผู้เยาว์กันบ้างว่ามีโทษหนักขนาดไหน
พรากเด็กอายุ 15 ปี มีโทษจำคุก 3-5 ปี ปรับ 6,000-30,000 บาท ถ้าหากำไรหรืออนาจาร จำคุก 5-20 ปี ปรับ 10,000-40,000 บาท
พรากเด็กอายุ 15-18 ปี มีโทษจำ ไม่เต็มใจ จำคุก 2-10 ปี ปรับ 4,000-20,000 บาท ถ้าหากำไรหรืออนาจาร จำคุก 3-5 ปี ปรับ 6,000-30,000 บาท
พรากเด็กอายุ 15-18 ปี มีโทษจำ เต็มใจ จำคุก 2-10 ปี ปรับ 4,000-20,000 บาท
ทั้งนี้คดี"พรากผู้เยาว์" นั้นเป็นความผิดทางอาญาถ้าแจ้งความแล้วไม่สามารถยอมความได้ ถึงแม้จะตกลงไกล่เกลี่ยกันได้แล้วก็ตาม ยังคงต้องรับโทษอยู่ดี
แต่ถึงอย่างไรเสียความรักก็คงห้ามกันไม่ได้และไม่ผิดอะไรที่จะรักเด็กต่ำกว่าอายุ 18 ปี หากเพียงแค่คุณผู้ชายทั้งหลายมีความบริสุทธิ์ใจเข้าตามตรอกออกตามประตู ขออนุญาตพ่อแม่และทำให้ถูกต้องตามประเพณี ตามกฎหมายไทยคดีพรากผู้เยาว์คงไม่เกิดขึ้น
แล้วต้องทำอย่างไรถึงจะถูกต้อง... อธิบายง่ายๆ คือ ช่วงเวลาคบหา หรือ พาออกจากบ้านต้องได้รับการยินยอมจากพ่อแม่เสียก่อน ถึงแม้ว่าจะยกขันหมากไปสู่ขอตามประเพณีและร่วมห้องหอลงโลงเรียบร้อย วันข้างหน้าอาจผิดคดีพรากผู้เยาว์ได้ ถ้าโดนแจ้งความ เนื่องจากว่าการสู่ขอเป็นธรรมเนียมประเพณี แต่ไม่ได้เป็นหลักฐานทางกฎหมายนั่นเอง ทางที่ดีควรจะจดทะเบียนสมรสไว้ดีที่สุด โดยต้องได้รับยินยอมจากพ่อแม่เซ็นยอมรับอนุญาต
ซึ่งการสมรสของผู้เยาว์กฎหมายได้บัญญัติไว้ดังนี้
ชายหรือหญิงที่จะจดทะเบียนสมรสต้องมีอายุมากกว่า 17 ปีขึ้นไป แต่ไม่เกิน 20 ปี ซึ่งทั้งคู่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม แต่ถ้าอายุไม่ถึง 17ปี ต้องได้รับคำสั่งศาล คือ ศาลต้องอนุญาตให้สมรสก่อน เพราะอาจมีเหตุอันสมควร เช่น หญิงตั้งครรภ์
ความรักเป็นสิ่งสวยงามไม่ว่าจะเด็กหรือแก่ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อความรัก หากชายหญิงรักกันจริงต้องทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีและกฎหมายบ้านเมือง เมื่อรักแล้วต้องรอได้ ยอมได้ เข้าใจได้ อย่าชิงสุกก่อนห่าม ไม่เช่นนั้นสิ่งที่สวยงามอาจทำร้ายทำลายคุณไม่ว่าจะเป็นคนรักหรือคนที่หวังดีที่อยู่รอบกายคุณ
รักเด็กได้ไม่ผิด ไม่มีใครว่า แต่อยู่ที่เจตนาและการกระทำเท่านั้นเอง
ขอบคุณข้อมูลจาก ทนายวิรัช หวังปิติพาณิชย์ law.longdo.com