ยังสู้ "ยุ้ย ปัทมวรรณ"อัพเดท"แม่ทุม"อาการทรงตัว ขอบคุณทุกกำลังใจ

ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง สำหรับ "แม่ทุม เค้ามูลคดี" ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าอาการทรงตัวไม่ทรุดลงแล้ว ล่าสุดได้เจอ "ยุ้ย ปัทมวรรณ" ทายาทของ "พ่อรอง" และ "แม่ทุม" ที่ห่างหายจากหน้าจอไปนานในงานแถลงข่าวมหกรรม ช้อป ชิม ชิลด์ แห่งปี ครบครัน&ตอบโจทย์ เอาใจขาช้อป ณ ศูนย์การค้าเพลินนารี่ มอลล์ วัชรพล ก็อัพเดทอาการคุณแม่ให้ฟังว่า

"อาการคุณแม่ตอนนี้ก็ถือว่ายังทรงอยู่ ตามความเข้าใจของเราโรคที่คุณแม่เป็นอาการจะมีแค่ทรงตัวกับทรุด วิธีการรักษาค่อนข้างจะน้อยซึ่งถ้านับระยะเวลาศึกษาโรคนี้ 2 ปี หลังจากทานยาเห็ดของคุณแฟรงกี้ก็ค่อยยาวขึ้น

แต่ ณ วันหนึ่งด้วยที่เราศึกษามาก็ต้องทำใจไว้ส่วนหนึ่ง คุณแม่มีอาการตอบสนอง เราไปถึงยิ้มให้เรา ก็เยอะกว่าเมื่อก่อน อาจจะต้องกระตุ้นให้พูดนิดหนึ่ง บางที่แม่เพิ่งตื่นจะไม่ค่อยพูด แต่แม่ทำให้เห็นแม่รับรู้ทุกอย่าง ถึงแม่ไม่พูดแต่เขาแสดงออกทางสายตาว่าแม่รู้ว่าลูกมา อย่างเช่นวันสำคัญ วันเกิดคุณแม่ วันแม่ เวลาเอาพวงมาลัยไปให้ แม่น้ำตาไหล

ณ วันนี้เราไม่คิดอะไร ขอให้เวลาไปถึงคุณแม่ยังตอบสนองเราได้ดี เราได้ผ่านจิตใจที่ทุกคนฮวบไปหมดเมื่อ 1 ปีที่แล้วที่คุณแม่ทรุด ไม่ตอบสนองอะไร มองแพนดานอย่างเดียว เราไปหาแม่อย่างเดียวที่ยืนเฉยๆ 6 เดือนแต่ก็ไป แต่ ณ วันนี้ คุณแม่ดีขึ้นกว่านั้น เราดูวันต่อวัน แม่ยิ้มให้เรามีความสุข ปาฏิหาริย์เกิดได้แต่มันต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงด้วย

คุณแม่ตอนนี้อยู่ที่รพ. หลักๆ คุณแม่หายใจเองไม่ได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ คุณหมอดูแลประคับประคองไป ก็ขอบคุณคุณหมอที่ดูแลมานาน ซึ่งแม่อยู่โรงพยาบาลมา 4 ปีท่านติดเชื้อน้อยมาก มีอาการเกิดขึ้นไม่น่าไว้ใจน้อยมาก ต้องขอบคุณคุณหมอและคุณแฟรงกี้ที่ให้แม่ทานเห็ดแล้วดีขึ้น ตอนนี้ก็ให้อาหารทางสายยาง

ส่วนคุณพ่อท่านก็สู้ ทุกคนสู้ เรามีความสุขแล้ว ไม่อยากให้คิดถึงวันที่แย่ลง เรื่องปาฏิหาริย์ก็หวังกันทุกคน แต่ที่บอกทุกอย่างมาควบคู่กับความเข้าใจและความเป็นจริง เรื่องค่ารักษา 4 ปีที่ผ่านมาค่ารักษาไม่เยอะ เพราะรพ.ล่าสุดพี่ชายเป็นคนเบิก

แต่ก่อน 4 ปีค่อนข้างเยอะ ครอบครัวเราตั้งแต่เข้าวงการก็ช่วยเหลือกัน แบ่งปันกันทำงาน ที่ผ่านมาโอเคแล้ว เราก็สู้กันผ่านมาได้ คนที่ช่วยเราเหลือมีเยอะ น้ำใจหลายๆ อย่าง ก็ต้องขอบคุณมากๆ คนที่ไม่ลืมคุณพ่อคุณแม่มีเยอะมาก

สำหรับเรื่องที่กังวล ด้วยระยะเวลาของโรค 2-4 ปี ที่ไม่เกิดเหมือนเซลล์ตัวแม่ดับไป ตัวอื่นจะดับตามโดยไม่มีเงื่อนไข ระยะ 2-4 ปี ซึ่งแม่เกินแล้ว เพราะฉะนั้นการรักษาประคับประคอง ถ้าอยู่รพ.ติดเชื้อต้องแก้ไขกันไป เราก็ทำบุญกันเรื่อยๆ เราหาทางรักษามาเยอะ ณ วันนี้เรามาถูกทางที่ให้แม่ทานอาหารเสริม เราก็ปรึกษาหมอตลอด

จริงๆ เรารับรู้ข้อมูลยาตัวนี้มานานแล้ว เรายังเสียใจที่ก่อนหน้านี้เราน่าจะนำมาให้คุณแม่ทานอาการคงไม่ขนาดนี้ แต่ไม่เป็นไร วันนี้แม่กลับมาเหมือนเดิมทุกอย่างมีปาฏิหาริย์มาก เราศึกษามาโรคนี้มันเป็นยังไง ปรึกษาทุกอย่าง

เราโอเคพอมีความหวังที่ละนิด แต่ก็หวังให้คุณแม่กลับมาเหมือนเดิม ขอแค่ให้แม่กลับมาหายใจ ดีขึ้น จะนั่งรถเข็นกลับมาก็ได้ ไปไหนมาไหนเข็นรถกันไป ขอแค่ให้มาอยู่ด้วยกัน เอาจริงๆ เราเคยอยากให้กลับไปอยู่บ้านนะ ถึงขนาดซื้ออุปกรณ์ทุกอย่างมาไว้หมด แต่พอถึงเวลาจริงๆ แล้วมันไม่เพียงพอ เกิดอะไรขึ้นก็อาจไม่ทันเลยต้องอยู่รพ. แต่ทุกวันนี้ก็หวังว่าอาการของคุณแม่จะดีขึ้นจนกลับบ้านได้อีกครั้งหนึ่ง"