แม่ร้องสื่อ ลูกสาวถูกเฒ่าเพื่อนบ้านข่มขืน ผวาหนัก-คดีไม่คืบ

คุณแม่เสียน้ำตา ร้องลูกสาว 9 ขวบ ถูกเพื่อนบ้านข่มขืนแล้วหนีหายไปนับเดือน คดีความยังไม่คืบหน้า เด็กผวาหนัก-สภาพจิตใจชอกช้ำ ไม่กล้ากลับมานอนที่บ้าน

(1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวจังหวัดมหาสารคาม ได้รับแจ้งร้องเรียนจาก นางจันทร์เพ็ญ อายุ 44 ปี ที่เปิดเผยถึงความทุกข์ใจและฝันร้ายที่เกิดขึ้นกับครอบครัว เมื่อลูกสาววัย 9 ปี ถูกเพื่อนบ้านวัย 64 ปี เป็นอดีตลูกจ้างพนักงานขับรถสำนักงานสรรพสามิต ก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศ ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้หลบหนีไป เกรงว่าคดีความจะเงียบหาย

ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับ นางจันทร์เพ็ญ ที่บ้านหลังหนึ่ง พร้อมกับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ผู้ก่อเหตุข่มขืนลูกสาวคือ นายสมควร แก้ววิเศษ อายุ 64 ปี เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา ช่วงหลังเลิกเรียนตนกับลูกสาวแวะไปหาพี่สาว ก่อนจะให้ลูกสาวปั่นจักรยานกลับมาบ้านก่อน

โดยระยะทางระหว่างบ้านพี่สาวกับบ้านของตนอยู่ห่างกัน 1.5 กิโลเมตร หลังจากให้ลูกสาวกลับบ้านมาก่อนเพียงไม่กี่นาที ตนก็ขับจักรยานยนต์ตามกลับมา แต่ไม่พบลูกสาวอยู่ที่บ้าน จึงได้ออกตามหา กระทั่งมาพบลูกสาววิ่งร้องไห้กลับมา จึงได้สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น

ลูกสาวเล่าให้ฟังว่า ระหว่างทางกลับบ้านได้เจอ นายสมควร ขับรถปิกอัพผ่านมาพอดี ระหว่างทางจะถึงบ้าน นายสมควร ได้ลงมาจากรถและใช้กำลังทุบตี ก่อนจะลากลูกสาวและรถจักรยานพาไปที่บ้านที่อยู่ใกล้เคียงกัน ก่อนจะล่วงละเมิดทางเพศ

หลังเกิดเหตุ ตนกับสามีได้พาลูกสาวไปตรวจร่างกาย พร้อมกับนำผลไปแจ้งความที่ สภ.เมืองมหาสารคาม ต่อมาญาติๆ ได้พากันสอบถาม นายสมควร ถึงที่บ้าน แต่ถูกปฏิเสธ ต่อมาผู้ต้องหาได้หลบหนีออกไปจากพื้นที่ และไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ตนเกรงว่าเรื่องจะเงียบหายไป และทราบมาว่าญาติพี่น้องของผู้ต้องหาเป็นคนมีสี อาจจะมีเส้นสายในการวิ่งเต้นล้มคดี ทำให้รอดพ้นความผิดครั้งนี้

นอกจากนี้ ลูกสาวยังเคยบอกว่า เคยถูก นายสมควร ก่อเหตุแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง ถูกนำมีดมาจี้คอและขู่ห้ามไม่ให้บอกใคร ก่อนที่ลูกสาวจะมีอาการซึมและกลัวผู้คน ปัจจุบันได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านพี่สาวแทน ตนไม่คิดว่าคนคุ้นเคยกันแต่เก่าแก่จะก่อเหตุเช่นนี้ สภาพจิตใจของลูกสาวยังไม่สู้ดีนัก อยากให้เจ้าหน้าที่จับกุมได้โดยเร็ว

ทางด้าน พ.ท.นพสิทธิ์ พงศ์วราพิศาล รองผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหาย ได้ส่งกำลังพลลงพื้นที่หาข้อเท็จจริงแล้วพร้อมกับส่งหนังสือไปถึง สภ.เมืองมหาสารคาม เพื่อขอทราบความคืบหน้าของคดีนี้

ล่าสุดทาง สภ.เมืองมหาสารคาม ได้แจ้งความคืบหน้าของคดีว่าได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมกับเรียกตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา แต่ปรากฏว่าไม่มาและได้หลบหนีไปแล้ว เจ้าหน้าที่จึงขออนุมัติศาลจังหวัดมหาสารคาม ออกหมายจับผู้ต้องหาตามหมายจับที่ 237/2559 ลงวันที่ 11 กรกฎาคม 2559 และทางฝ่ายสืบสวนได้ออกติดตามผู้ต้องหารายนี้แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่พบตัว